ตำรวจบุกจับยายเฒ่ารับทำแท้งเถื่อนย่านติวานนท์ หลังชาวบ้านร้องเรียน พบหลักฐานการทำแท้งเพียบ ทั้งไซริงค์ฉีดยา สายยาง แอลกอฮอล์ ชาม และน้ำเปล่า แจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหา
วันนี้ (11 ม.ค.) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ คณะทำงานตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและสอบสวนดำเนินคดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ พ.ต.ท.กัมพล วงษ์สงวน สารวัตรกองกำกับการ 4 กองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ร่วมกันบุกทลายแหล่งทำแท้งเถื่อนย่านติวานนท์ ที่ บ้านเลขที่ 63/14 หมู่ที่ 5 แขวงตลาดขวัญ อำเภอเมือง จ.นนทบุรี พบผู้กระทำความผิด 1 ราย คือ นางยุพิน ปุรินันท์ อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นคนรับจ้างทำแท้ง
นายพสิษฐ์ กล่าวว่า การเข้าจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาผ่านทาง สธ.ถึงการกระทำความผิดดังกล่าว ดังนั้น ตนจึงได้ประสานงานกับ ปคบ.ทำการตรวจสอบ และพบว่า มีการกระทำความผิดจริง จึงนำกำลังเข้าจับกุม ทั้งนี้ จากการเข้าจับกุม พบว่า ผู้ต้องหามีการจัดห้องทำแท้งที่ไม่ถูกหลักอนามัย เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นเพิงไม้และไม่มีความสะอาด ซึ่งดูจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำแท้ง ก็ถือว่าผู้ต้องหามีความเชี่ยวชาญในการทำแท้ง และจากการล่อซื้อยังพบอุปกรณ์ที่ผู้ต้องหาเตรียมไว้ทำแท้ง ได้แก่ ไซริงค์ฉีดยา สายยาง แอลกอฮอล์ ชาม และน้ำเปล่า ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เครื่องมือที่น้อย แต่อย่างไรก็ตาม ทางตนยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องน้ำในชามว่าเป็นน้ำเปล่า ดังนั้น จึงต้องนำน้ำที่อยู่ในชามไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.กัมพล กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหามีความผิด 3 ข้อหา คือ 1.ผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กรณีสถานพยาบาลเถื่อนไม่ขออนุญาต ผิดมาตรา 16 และ24 ผิดฐานประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ผิดพระราชบัญญัติวิชาเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 26 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3.ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 302 ทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้น ยินยอมระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.ท.กัมพล กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน พบว่า ผู้ต้องหารับทำแท้งมาแล้วหลายปี โดยจะคิดราคาตามอายุครรภ์ของผู้มาทำในราคาเดือนละ 1,500 บาท และจากการตรวจสอบบริเวณรอบบ้านและด้านหลังห้องทำแท้งยังพบว่ามีกองขยะที่ทาง ปคบ.คาดว่า จะเป็นแหล่งเผาทำลายหลักฐาน เนื่องจากระหว่างการไปตรวจสอบในกองขยะพบขวดแอลกอฮอล์จำนวนมากและยังพบเถ้าถ่านคล้ายเศษของเด็กอยู่ในกองขยะ ดังนั้น เรื่องของสถานที่ทำลายหลักฐานทางปคบ.จะต้องทำการตรวจสอบอีกครั้ง
วันนี้ (11 ม.ค.) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ คณะทำงานตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและสอบสวนดำเนินคดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ พ.ต.ท.กัมพล วงษ์สงวน สารวัตรกองกำกับการ 4 กองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ร่วมกันบุกทลายแหล่งทำแท้งเถื่อนย่านติวานนท์ ที่ บ้านเลขที่ 63/14 หมู่ที่ 5 แขวงตลาดขวัญ อำเภอเมือง จ.นนทบุรี พบผู้กระทำความผิด 1 ราย คือ นางยุพิน ปุรินันท์ อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นคนรับจ้างทำแท้ง
นายพสิษฐ์ กล่าวว่า การเข้าจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาผ่านทาง สธ.ถึงการกระทำความผิดดังกล่าว ดังนั้น ตนจึงได้ประสานงานกับ ปคบ.ทำการตรวจสอบ และพบว่า มีการกระทำความผิดจริง จึงนำกำลังเข้าจับกุม ทั้งนี้ จากการเข้าจับกุม พบว่า ผู้ต้องหามีการจัดห้องทำแท้งที่ไม่ถูกหลักอนามัย เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นเพิงไม้และไม่มีความสะอาด ซึ่งดูจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำแท้ง ก็ถือว่าผู้ต้องหามีความเชี่ยวชาญในการทำแท้ง และจากการล่อซื้อยังพบอุปกรณ์ที่ผู้ต้องหาเตรียมไว้ทำแท้ง ได้แก่ ไซริงค์ฉีดยา สายยาง แอลกอฮอล์ ชาม และน้ำเปล่า ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เครื่องมือที่น้อย แต่อย่างไรก็ตาม ทางตนยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องน้ำในชามว่าเป็นน้ำเปล่า ดังนั้น จึงต้องนำน้ำที่อยู่ในชามไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.กัมพล กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหามีความผิด 3 ข้อหา คือ 1.ผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กรณีสถานพยาบาลเถื่อนไม่ขออนุญาต ผิดมาตรา 16 และ24 ผิดฐานประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ผิดพระราชบัญญัติวิชาเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 26 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3.ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 302 ทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้น ยินยอมระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.ท.กัมพล กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน พบว่า ผู้ต้องหารับทำแท้งมาแล้วหลายปี โดยจะคิดราคาตามอายุครรภ์ของผู้มาทำในราคาเดือนละ 1,500 บาท และจากการตรวจสอบบริเวณรอบบ้านและด้านหลังห้องทำแท้งยังพบว่ามีกองขยะที่ทาง ปคบ.คาดว่า จะเป็นแหล่งเผาทำลายหลักฐาน เนื่องจากระหว่างการไปตรวจสอบในกองขยะพบขวดแอลกอฮอล์จำนวนมากและยังพบเถ้าถ่านคล้ายเศษของเด็กอยู่ในกองขยะ ดังนั้น เรื่องของสถานที่ทำลายหลักฐานทางปคบ.จะต้องทำการตรวจสอบอีกครั้ง
