กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ยกกรณีช่างภาพเครือเนชัน ป่วยกะทันหัน ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ จนท.รพ.เมิน ชี้ 3 กองทุนเป็นเพียงลมปาก ใช้ไม่ได้จริง
สืบเนื่องจากกรณีช่างภาพในเครือเนชั่น นายสกล สนธิรัตน์ ช่างภาพเครือเนชั่น มีอาการหน้ามืด เป็นลม ในระหว่างที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเตรียมความพร้อมจัดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2556 เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลพระมงกุฎ ซึ่งอยู่ประจำห้องพยาบาลสภาฯมาดูอาการ แต่ไม่ยอมนำรถพยาบาลของโรงพยาบาลพระมงกุฎ ส่งตัวนายสกลไปโรงพยาบาล
ต่อกรณีนี้ นางสาวกชนุช แสงแถลง โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เมื่อผู้ป่วยมีอาการเข้าข่ายฉุกเฉิน ไม่จำเป็นต้องถามสิทธิว่าใช้สิทธิอะไร มีประกันสังคมอยู่โรงพยาบาลใด ผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นแพทย์ประจำรัฐสภา ศูนย์นเรนทร หรือเพื่อนผู้สื่อข่าวก็สามารถนำตัวส่ง โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทันที
“กรณีนี้ แพทย์ประจำสภา หรือเจ้าหน้าที่รัฐสภา จะอ้างว่า ไม่รู้ข้อมูลนโยบายฉุกเฉินไม่ได้ เพราะรัฐบาลประกาศมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาในทำนองกันนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และพบว่า นโยบายนี้ยังเป็นปัญหาในทางปฏิบัติหลายประเด็น ซึ่งทั้งหมดส่งผลต่อชีวิตของผู้ป่วยทั้งสิ้น ได้แก่ 1.ยังต้องทวงถามสิทธิทุกครั้งที่ไปรับบริการ 2.โรงพยาบาลขอให้สำรองจ่าย หรือเซ็นรับสภาพหนี้ก่อนการรักษา 3.โรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา โดยอ้างว่าไม่ฉุกเฉิน
อย่างกรณีนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น กว่าจะนำตัวผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลตามสิทธิ คือ โรงพยาบาลกลาง ซึ่งอยู่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ผ่านโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงหลายแห่ง ตามสิทธิแล้วผู้ป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้าโรงพยาบาลใดก็ได้ที่ใกล้ที่สุดที่ใดก็ได้ เพื่อที่จะให้การรักษาได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้ป่วยลงไปได้มาก โดยเฉพาะอาการที่เกิดทางสมองในกรณีของนายสกล” นางสาวกชนุช แสงแถลง กล่าว
นาวสาวกชนุช กล่าวว่า กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ขอให้รัฐบาลและรัฐสภาเห็นความสำคัญของนโยบายนี้ โดยการหารือ หาแนวทางที่จะเป็นจริงได้ในทางปฏิบัติ จัดเวที Workshop ปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วน เพื่อร่วมวิเคราะห์ปัญหา และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ต้องกำหนดเป็นวาระเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพ รัฐบาล ควรให้มีช่องทางการรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนกรณีปัญหาจริงๆ เพื่อจะได้รับทราบปัญหาที่แท้จริงและแก้ไขได้ถูกต้อง
สืบเนื่องจากกรณีช่างภาพในเครือเนชั่น นายสกล สนธิรัตน์ ช่างภาพเครือเนชั่น มีอาการหน้ามืด เป็นลม ในระหว่างที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเตรียมความพร้อมจัดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2556 เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลพระมงกุฎ ซึ่งอยู่ประจำห้องพยาบาลสภาฯมาดูอาการ แต่ไม่ยอมนำรถพยาบาลของโรงพยาบาลพระมงกุฎ ส่งตัวนายสกลไปโรงพยาบาล
ต่อกรณีนี้ นางสาวกชนุช แสงแถลง โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เมื่อผู้ป่วยมีอาการเข้าข่ายฉุกเฉิน ไม่จำเป็นต้องถามสิทธิว่าใช้สิทธิอะไร มีประกันสังคมอยู่โรงพยาบาลใด ผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นแพทย์ประจำรัฐสภา ศูนย์นเรนทร หรือเพื่อนผู้สื่อข่าวก็สามารถนำตัวส่ง โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทันที
“กรณีนี้ แพทย์ประจำสภา หรือเจ้าหน้าที่รัฐสภา จะอ้างว่า ไม่รู้ข้อมูลนโยบายฉุกเฉินไม่ได้ เพราะรัฐบาลประกาศมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาในทำนองกันนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และพบว่า นโยบายนี้ยังเป็นปัญหาในทางปฏิบัติหลายประเด็น ซึ่งทั้งหมดส่งผลต่อชีวิตของผู้ป่วยทั้งสิ้น ได้แก่ 1.ยังต้องทวงถามสิทธิทุกครั้งที่ไปรับบริการ 2.โรงพยาบาลขอให้สำรองจ่าย หรือเซ็นรับสภาพหนี้ก่อนการรักษา 3.โรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา โดยอ้างว่าไม่ฉุกเฉิน
อย่างกรณีนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น กว่าจะนำตัวผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลตามสิทธิ คือ โรงพยาบาลกลาง ซึ่งอยู่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ผ่านโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงหลายแห่ง ตามสิทธิแล้วผู้ป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้าโรงพยาบาลใดก็ได้ที่ใกล้ที่สุดที่ใดก็ได้ เพื่อที่จะให้การรักษาได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้ป่วยลงไปได้มาก โดยเฉพาะอาการที่เกิดทางสมองในกรณีของนายสกล” นางสาวกชนุช แสงแถลง กล่าว
นาวสาวกชนุช กล่าวว่า กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ขอให้รัฐบาลและรัฐสภาเห็นความสำคัญของนโยบายนี้ โดยการหารือ หาแนวทางที่จะเป็นจริงได้ในทางปฏิบัติ จัดเวที Workshop ปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วน เพื่อร่วมวิเคราะห์ปัญหา และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ต้องกำหนดเป็นวาระเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพ รัฐบาล ควรให้มีช่องทางการรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนกรณีปัญหาจริงๆ เพื่อจะได้รับทราบปัญหาที่แท้จริงและแก้ไขได้ถูกต้อง