ขณะที่ผู้ชายก็มีปัญหาแบบผู้ชาย ผู้หญิงเองก็มีปัญหาไม่น้อยไปกว่ากัน และสิ่งหนึ่งซึ่งคงรบกวนจิตใจผู้หญิงมากที่สุดก็คงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับอวัยวะเพศ ถ้าผู้ชายมีการขริบ หรือตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ แล้วผู้หญิงล่ะจะทำได้ไหม หากเนื้อหนังที่หุ้ม “น้องสาว” อยู่ สร้างปัญหา
ตามคำบอกเล่าของ ศ.นพ.ณรงค์ นิ่มสกุล นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ สมาคมเลเซอร์ทางการแพทย์นานาชาตินั้น ได้แยกแยะปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศของผู้หญิงไว้สองประการ อย่างแรกคือ ความผิดปกติทางด้านสรีระร่างกาย
“ยกตัวอย่าง เช่น เด็กบางคนเกิดมาปากแหว่ง บางคนเกิดมา หูข้างหนึ่งไม่มี เป็นความผิดปกติทางร่างกาย และในอวัยวะเพศของผู้หญิง ก็สามารถเกิดความผิดปกติได้เช่นกัน อันดับแรกก็คือ การเป็นกะเทยที่แท้จริง ซึ่งหมายถึงคนที่มีอวัยวะเพศชายและหญิงปนอยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิดมาเลย ซึ่งในกรณีนี้ เราต้องรีบรักษาตั้งแต่เล็กๆ เลย ก็คือ ด้วยการตรวจโครโมโซมตัวเอ็กซ์ตัววาย ว่าเด็กคนดังกล่าวมีโครโมโซมผู้หญิงมากกว่าโครโมโซมผู้ชาย หรือมีโครโมโซมผู้ชายมากกว่าโครโมโซมผู้หญิง พอเรารู้ตรงนี้แล้ว เราก็กำหนดเพศให้เขาเลย”
ปัญหาที่ว่าไม่ถือเป็นกรรมพันธุ์ หากแต่เป็นความผิดปกติทางสรีระของแต่ละบุคคล แต่ผลสำรวจทางการแพทย์ ระบุว่า สาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะระหว่าง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ไปทานยาสะเปะสะปะ โดยเฉพาะยาจำพวกที่แก้แพ้ท้อง
“เมื่อ 20 กว่าปีก่อน มันมียาแก้แพ้ท้องตัวหนึ่งจากประเทศเยอรมนี คุณแม่ท้องแรกที่แพ้ท้องมากก็ไปซื้อยาพวกนี้มากินแล้วส่งผลให้เด็กแขนกุดขากุด ประเทศญี่ปุ่นเป็นมากที่สุด ก็มีการไปตรวจว่าเพราะอะไร ถึงเป็นกันมาก ก็พบว่า แม่ที่ตั้งท้องแล้วให้กำเนิดเด็กที่พิการมากมายในญี่ปุ่นนั้น มาจากการทานยาแพ้ท้องที่ว่านั้น ทีนี้ก็มีการศึกษาว่า ยาแทบทุกตัวที่ใช้แพ้ท้อง มีความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกในครรภ์พิการได้ เราก็เลยต้องแนะนำกันว่า ถ้าสามเดือนแรกแพ้ท้องมากๆ ให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล อย่าซื้อยาทานเอง”
อย่างไรก็ตาม พ้นไปจากปัญหานั้นแล้ว ศ.นพ.ณรงค์ ยังบอกอีกว่า เรื่องกวนใจอีกอย่างของผู้หญิง คือ การมีเนื้อแคมที่ใหญ่เกินไปจนปิดคลุมอวัยวะเพศไว้
“การมีแคมที่ใหญ่มากจนปกปิดอวัยวะเพศทั้งหมดไว้ก็ถือเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่ง พอมันปิดหมด ก็จะนำไปสู่ปัญหา อย่างเช่น เวลาปัสสาวะ ปัสสาวะก็จะไม่พุ่งออกมา เพราะว่ามันถูกปิดอยู่ เกิดความสกปรก ทำความสะอาดยาก มีกลิ่นเหม็น แล้วความชื้นหรืออับ ก็จะทำให้เกิดเชื้อราได้ อักเสบง่าย แล้วเชื้อราก็จะแพร่กระจาย นำไปสู่การเป็นโรคหงอนไก่ได้ ปัญหาต่อไปคือทำให้ “ตกขาว” แล้วก็ลุกลาม อาจจะทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย”
ที่สำคัญมากๆ ก็คือ เนื้อแคมที่ปิดคลุมคลิตอริส ซึ่งเป็นจุดสำคัญของผู้หญิง เวลามีเพศสัมพันธ์ก็มักจะไม่ถึง Ecstasy หรือจุดสุดยอด ก็ส่งผลถึงสุขภาพจิตทำให้เป็นคนอารมณ์ร้ายได้ หงุดหงิด โมโหง่าย จริงๆ แล้วมันเกิดจากเหตุผลข้อนี้แหละ และถ้าไปรักษาผ่าตัด ไปขริบแคมที่เกินความจำเป็นออก มันก็จบ แต่ส่วนใหญ่ คนไข้ไม่ค่อยรู้ว่ามันรักษาได้ และลำบากใจที่จะเปิดเผย
“วิธีการก็ง่ายๆ ก็คือ ผ่าตัดเนื้อแคมซึ่งปิดช่อง ให้มันเหลือเท่าที่จำเป็น การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ประมาณ 2 อาทิตย์แผลก็หาย ผ่าตัดเสร็จ ก็ใช้ชีวิตตามปกติได้ เวลาถ่ายปัสสาวะจะเจ็บไหม ไม่เจ็บ แต่บวมนิดหน่อย ใช้ชีวิตทำงานได้ตามปกติ”
ดังนั้น คุณผู้หญิงท่านใดกำลังมีปัญหาอย่างที่ว่ามา ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ วิทยาการสมัยใหม่ ช่วยคุณได้แน่นอน
ล้อมกรอบ
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
ตามคำบอกเล่าของ ศ.นพ.ณรงค์ นิ่มสกุล นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ สมาคมเลเซอร์ทางการแพทย์นานาชาตินั้น ได้แยกแยะปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศของผู้หญิงไว้สองประการ อย่างแรกคือ ความผิดปกติทางด้านสรีระร่างกาย
“ยกตัวอย่าง เช่น เด็กบางคนเกิดมาปากแหว่ง บางคนเกิดมา หูข้างหนึ่งไม่มี เป็นความผิดปกติทางร่างกาย และในอวัยวะเพศของผู้หญิง ก็สามารถเกิดความผิดปกติได้เช่นกัน อันดับแรกก็คือ การเป็นกะเทยที่แท้จริง ซึ่งหมายถึงคนที่มีอวัยวะเพศชายและหญิงปนอยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิดมาเลย ซึ่งในกรณีนี้ เราต้องรีบรักษาตั้งแต่เล็กๆ เลย ก็คือ ด้วยการตรวจโครโมโซมตัวเอ็กซ์ตัววาย ว่าเด็กคนดังกล่าวมีโครโมโซมผู้หญิงมากกว่าโครโมโซมผู้ชาย หรือมีโครโมโซมผู้ชายมากกว่าโครโมโซมผู้หญิง พอเรารู้ตรงนี้แล้ว เราก็กำหนดเพศให้เขาเลย”
ปัญหาที่ว่าไม่ถือเป็นกรรมพันธุ์ หากแต่เป็นความผิดปกติทางสรีระของแต่ละบุคคล แต่ผลสำรวจทางการแพทย์ ระบุว่า สาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะระหว่าง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ไปทานยาสะเปะสะปะ โดยเฉพาะยาจำพวกที่แก้แพ้ท้อง
“เมื่อ 20 กว่าปีก่อน มันมียาแก้แพ้ท้องตัวหนึ่งจากประเทศเยอรมนี คุณแม่ท้องแรกที่แพ้ท้องมากก็ไปซื้อยาพวกนี้มากินแล้วส่งผลให้เด็กแขนกุดขากุด ประเทศญี่ปุ่นเป็นมากที่สุด ก็มีการไปตรวจว่าเพราะอะไร ถึงเป็นกันมาก ก็พบว่า แม่ที่ตั้งท้องแล้วให้กำเนิดเด็กที่พิการมากมายในญี่ปุ่นนั้น มาจากการทานยาแพ้ท้องที่ว่านั้น ทีนี้ก็มีการศึกษาว่า ยาแทบทุกตัวที่ใช้แพ้ท้อง มีความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกในครรภ์พิการได้ เราก็เลยต้องแนะนำกันว่า ถ้าสามเดือนแรกแพ้ท้องมากๆ ให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล อย่าซื้อยาทานเอง”
อย่างไรก็ตาม พ้นไปจากปัญหานั้นแล้ว ศ.นพ.ณรงค์ ยังบอกอีกว่า เรื่องกวนใจอีกอย่างของผู้หญิง คือ การมีเนื้อแคมที่ใหญ่เกินไปจนปิดคลุมอวัยวะเพศไว้
“การมีแคมที่ใหญ่มากจนปกปิดอวัยวะเพศทั้งหมดไว้ก็ถือเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่ง พอมันปิดหมด ก็จะนำไปสู่ปัญหา อย่างเช่น เวลาปัสสาวะ ปัสสาวะก็จะไม่พุ่งออกมา เพราะว่ามันถูกปิดอยู่ เกิดความสกปรก ทำความสะอาดยาก มีกลิ่นเหม็น แล้วความชื้นหรืออับ ก็จะทำให้เกิดเชื้อราได้ อักเสบง่าย แล้วเชื้อราก็จะแพร่กระจาย นำไปสู่การเป็นโรคหงอนไก่ได้ ปัญหาต่อไปคือทำให้ “ตกขาว” แล้วก็ลุกลาม อาจจะทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย”
ที่สำคัญมากๆ ก็คือ เนื้อแคมที่ปิดคลุมคลิตอริส ซึ่งเป็นจุดสำคัญของผู้หญิง เวลามีเพศสัมพันธ์ก็มักจะไม่ถึง Ecstasy หรือจุดสุดยอด ก็ส่งผลถึงสุขภาพจิตทำให้เป็นคนอารมณ์ร้ายได้ หงุดหงิด โมโหง่าย จริงๆ แล้วมันเกิดจากเหตุผลข้อนี้แหละ และถ้าไปรักษาผ่าตัด ไปขริบแคมที่เกินความจำเป็นออก มันก็จบ แต่ส่วนใหญ่ คนไข้ไม่ค่อยรู้ว่ามันรักษาได้ และลำบากใจที่จะเปิดเผย
“วิธีการก็ง่ายๆ ก็คือ ผ่าตัดเนื้อแคมซึ่งปิดช่อง ให้มันเหลือเท่าที่จำเป็น การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ประมาณ 2 อาทิตย์แผลก็หาย ผ่าตัดเสร็จ ก็ใช้ชีวิตตามปกติได้ เวลาถ่ายปัสสาวะจะเจ็บไหม ไม่เจ็บ แต่บวมนิดหน่อย ใช้ชีวิตทำงานได้ตามปกติ”
ดังนั้น คุณผู้หญิงท่านใดกำลังมีปัญหาอย่างที่ว่ามา ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ วิทยาการสมัยใหม่ ช่วยคุณได้แน่นอน
ล้อมกรอบ
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
