เด็กสาววัย 15 ป่วยไข้เลือดออกตาย หลังเข้ารักษาตัวที่ รพ.ระยอง ญาติลุกฮือไม่พอใจผลการรักษา สธ.เตรียมสั่งตั้งกรรมการสอบ พร้อมประสานหน่วยงานนอกตรวจสอบมาตรฐานการรักษา ยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เตือน ปชช.มีไข้ขึ้นสูงเกิน 2 วัน กินยาแก้ไข้ไม่ลดลง ให้รีบพบแพทย์ห้ามซื้อยากินเอง
วันนี้ (25 ธ.ค.) นพ.ธวัชชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประจำพื้นที่ จ.ระยอง ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณี น.ส.อชิรญา อุดานนท์ อายุ 15 ปี นักเรียน ม.4 โรงเรียนวัดนวลนรดิศ เขตภาษีเจริญ กทม.เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก หลังเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ระยอง เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา และญาติไม่พอใจในผลการรักษายังมีความสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว สธ.จึงได้ดำเนินการเร่งด่วน 3 เรื่องใหญ่ คือ 1.ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมี นพ.ธำรงค์ สมบุญตานนท์ สาธารณสุขนิเทศก์ ประจำพื้นที่ จ.ระยอง เป็นประธาน และให้รายงานผลโดยด่วนที่สุด พร้อมกันนี้ จะเชิญ 3 หน่วยงานนอก ได้แก่ แพทยสภา ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ และราชวิทยาลัยกุมารเวชกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาชีพ ตรวจสอบมาตรฐานการรักษา ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเต็มที่
“ผู้เสียชีวิตรายนี้ เป็นผู้ป่วยไข้เลือดออกที่มีอาการรุนแรง และพบได้น้อยมาก ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า ทีมแพทย์ที่ให้การดูแลผู้เสียชีวิตประกอบด้วย อายุรแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา และกุมารแพทย์ และพยาบาล ซึ่งได้ให้การดูแลตามแนวทางการรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออก แต่อย่างไรก็ตามตนจะเดินทางไปตรวจสอบที่ รพ.ระยอง ในบ่ายวันนี้” นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า 2.สธ.ได้ประสานสำนักอนามัย กรุงเทพฯ เพื่อควบคุม ป้องกันโรคไข้เลือดออก ที่เขตภาษีเจริญ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ และเกิดการติดเชื้อดังกล่าว และ 3.การพิจารณาการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามความเหมาะสม
“ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยไข้เลือดออก ได้ตลอดปีและพบได้ทุกวัย ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2555 ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.-18 ธ.ค.ทั่วประเทศ มีรายงานผู้ป่วยไข้เลือดออก สะสม 71,299 ราย เสียชีวิต 78 ราย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2554 อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.11 โดยพบอัตราป่วยสูงสุดที่ภาคกลาง พบ 136.15 ต่อแสนประชากร รองลงมาคือภาคใต้ พบ 124.22 ต่อแสนประชากร” นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวด้วยว่า ขอย้ำเตือนประชาชนที่สงสัยว่าป่วยเป็นไข้เลือดออก ซึ่งมีอาการไข้สูงลอยติดต่อกัน 2 วันขึ้นไป ไม่มีอาการไอ กินยาลดไข้แล้วไม่ลด ขอให้รีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง และไม่ควรซื้อยากินเอง โดยเฉพาะยาลดไข้ที่มีฤทธิ์กัดกระเพาะอาหาร เช่น ยาแอสไพริน ยาแก้ปวด กลุ่มไอโปรบรูเฟน ซึ่งยาดังกล่าวจะทำให้มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เป็นอันตรายถึงชีวิต
วันนี้ (25 ธ.ค.) นพ.ธวัชชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประจำพื้นที่ จ.ระยอง ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณี น.ส.อชิรญา อุดานนท์ อายุ 15 ปี นักเรียน ม.4 โรงเรียนวัดนวลนรดิศ เขตภาษีเจริญ กทม.เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก หลังเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ระยอง เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา และญาติไม่พอใจในผลการรักษายังมีความสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว สธ.จึงได้ดำเนินการเร่งด่วน 3 เรื่องใหญ่ คือ 1.ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมี นพ.ธำรงค์ สมบุญตานนท์ สาธารณสุขนิเทศก์ ประจำพื้นที่ จ.ระยอง เป็นประธาน และให้รายงานผลโดยด่วนที่สุด พร้อมกันนี้ จะเชิญ 3 หน่วยงานนอก ได้แก่ แพทยสภา ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ และราชวิทยาลัยกุมารเวชกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาชีพ ตรวจสอบมาตรฐานการรักษา ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเต็มที่
“ผู้เสียชีวิตรายนี้ เป็นผู้ป่วยไข้เลือดออกที่มีอาการรุนแรง และพบได้น้อยมาก ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า ทีมแพทย์ที่ให้การดูแลผู้เสียชีวิตประกอบด้วย อายุรแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา และกุมารแพทย์ และพยาบาล ซึ่งได้ให้การดูแลตามแนวทางการรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออก แต่อย่างไรก็ตามตนจะเดินทางไปตรวจสอบที่ รพ.ระยอง ในบ่ายวันนี้” นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า 2.สธ.ได้ประสานสำนักอนามัย กรุงเทพฯ เพื่อควบคุม ป้องกันโรคไข้เลือดออก ที่เขตภาษีเจริญ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ และเกิดการติดเชื้อดังกล่าว และ 3.การพิจารณาการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามความเหมาะสม
“ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยไข้เลือดออก ได้ตลอดปีและพบได้ทุกวัย ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2555 ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.-18 ธ.ค.ทั่วประเทศ มีรายงานผู้ป่วยไข้เลือดออก สะสม 71,299 ราย เสียชีวิต 78 ราย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2554 อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.11 โดยพบอัตราป่วยสูงสุดที่ภาคกลาง พบ 136.15 ต่อแสนประชากร รองลงมาคือภาคใต้ พบ 124.22 ต่อแสนประชากร” นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวด้วยว่า ขอย้ำเตือนประชาชนที่สงสัยว่าป่วยเป็นไข้เลือดออก ซึ่งมีอาการไข้สูงลอยติดต่อกัน 2 วันขึ้นไป ไม่มีอาการไอ กินยาลดไข้แล้วไม่ลด ขอให้รีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง และไม่ควรซื้อยากินเอง โดยเฉพาะยาลดไข้ที่มีฤทธิ์กัดกระเพาะอาหาร เช่น ยาแอสไพริน ยาแก้ปวด กลุ่มไอโปรบรูเฟน ซึ่งยาดังกล่าวจะทำให้มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เป็นอันตรายถึงชีวิต