xs
xsm
sm
md
lg

แนะหมอ-พยาบาลใช้มิติจิตตปัญญาลดเครียด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หมอวิจารณ์” เผย แพทย์-พยาบาล มีความกดดันในการทำงานสูง ต้องปรับมุมมองใหม่ใช้หลัก “มิติจิตตปัญญา” เพิ่มคุณภาพ คุณค่า และคุณธรรมในการทำงาน เอื้อระบบบริการสุขภาพมีการพัฒนาที่ยั่งยืน จี้ สธ.-สปสช.เน้นการส่งเสริมป้องกันโรคแก้ปัญหาคนไข้กระจุกตัวในโรงพยาบาลขนาดใหญ่

วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่โรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค กรุงเทพฯ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช คณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล และคณะกรรมการกำกับทิศโครงการสร้างเสริมมิติจิตตปัญญาสู่ระบบสุขภาพที่ยั่งยืน กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุม “SHA Conference & Sharing คุณภาพ คุณค่า คุณธรรม” ว่า ระบบบริการสุขภาพของไทยจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะมีระบบหลักประกันสุขภาพทั้ง 3 กองทุน ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการและใช้งบประมาณน้อย แต่ยังคงมีรายละเอียดบางจุดที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการให้บริการ โดยแบ่งเป็นปัญหาในเชิงระบบและปัญหาเชิงบุคคล ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะต้องขับเคลื่อนการแก้ไขไปพร้อมๆ กัน

ศ.นพ.วิจารณ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาในเชิงระบบ อาทิ การกระจุกตัวของผู้ป่วยในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ตรงนี้หน่วยงานหลักอย่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ต้องมีส่วนช่วยในการแก้ไข โดยต้องร่วมมือส่งเสริมให้ประชาชนเข้าใจในเรื่องของการรักษาพยาบาลตามความใกล้ไกลของสถานพยาบาลและตามความจำเป็นต่างๆ ไม่ใช่เลือกไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จนทำให้เกิดปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังต้องสนับสนุนให้มีระบบเชื่อมโยงระหว่างโรงพยาบาลแม่ข่ายและลูกข่าย เพื่อเพิ่มคุณภาพของระบบบริการและทำให้เกิดการทำงานเป็นทีม โดยเฉพาะการส่งต่อและรับกลับผู้ป่วย รวมไปถึงต้องหันมาส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคเป็นหลักให้มากขึ้น ไม่ได้เน้นที่การรักษาโรคให้ผู้ป่วยเพียงอย่างเดียว เช่น ต้องรณรงค์ให้ประชาชนรู้จักการดูแลสุขภาพของตัวเอง การฉีดวัคซีน เป็นต้น

“สำหรับปัญหาเชิงบุคคล คือ ผู้ให้บริการ หรือบุคลากรทางการแพทย์อาจไม่มีความสุขในการทำงาน เนื่องจากต้องเผชิญหน้ากับความกดดันต่างๆ ทั้งผู้บริหารที่ต้องการ KPI ผู้ป่วย หรือญาติคนไข้ที่อารมณ์ร้าย การทำงานที่ขาดแคลนบุคลากร งบประมาณและยาที่ไม่เพียงพอ ตรงนี้บุคลากรทางการแพทย์ต้องปรับสภาพจิตใจของตนเอง ด้วยการใช้หลักของจิตตปัญญา” ศ.นพ.วิจารณ์ กล่าว

ศ.นพ.วิจารณ์ กล่าวด้วยว่า บุคลากรทางการแพทย์ต้องมองปัญหาเหล่านั้นให้เป็นโอกาส แล้วนำมาปรับเพิ่มความสุขทางจิตใจของตนเอง โดยใช้หลักมิติจิตตปัญญามาพัฒนาคุณภาพ คุณค่า และคุณธรรมของตนเอง ก็จะช่วยให้ระบบบริการสุขภาพของทุกสถานพยาบาลมีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น ลดรอยต่อของการบริการ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เรื่องของคุณภาพต้องเปลี่ยนมุมมอง ว่า คุณภาพที่ดีไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้ให้บริการหรือผลลัพธ์ที่ดี แต่อยู่ที่การวัดความพึงพอใจของผู้มารับบริการ ดังนั้น ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานโดยนำเอาเรื่องของหัวใจ ความรัก และความเอื้ออาทรมาปรับใช้ในการทำงาน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มพูนคุณค่าให้แก่คนทำงาน เพราะได้ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นและสังคม ก็เท่ากับว่ามีเรามีคุณธรรม นอกจากนี้ ยังต้องเรียนรู้การทำงานและเห็นคุณค่าจากผู้ที่ทำงานในสาขาต่างๆ ด้วย ทั้งพยาบาล หรือแม้แต่คนงานในโรงพยาบาล มีการเคารพการทำงานซึ่งกันและกัน ก็จะช่วยให้ระบบบริการมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล กรรมการกองทุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า นอกจากจะใช้หลักมิติจิตตปัญญามาเพิ่มคุณภาพ คุณค่า และคุณธรรมของบุคลากรทางการแพทย์แล้ว สิ่งสำคัญ คือ ต้องทำให้แพทย์ พยาบาล ฯลฯ เข้าใจถึงสภาพแวดล้อมของผู้ป่วย และอะไรที่เป็นสาเหตุของการป่วย โดยอาจต้องมีการลงพื้นที่ชุมชน และหันมาเน้นในเรื่องของการส่งเสริมป้องกันโรคและสร้างเสริมสุขภาพมากกว่าการรักษาโรคที่เป็นการแก้ปัญหาสุขภาพแบบปลายเหตุ เช่น โรคเรื้อรังนอกจากจะต้องรักษาให้ได้คุณภาพดีแล้ว จะต้องทำเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดอาการลุกลาม หรือมีอาการแทรกซ้อน ส่งเสริมการป้องกันเบื้องต้นโดยเข้าไปดูในแต่ละครอบครัว หรือชุมชนว่ามีบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ แล้วไปปรับพฤติกรรมของผู้ที่มีแนวโน้มเพื่อป้องกันการเกิดโรค เป็นต้น

ด้าน นพ.อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล กล่าวว่า สถาบันฯได้ร่วมมือกับ สสส.จัดทำโครงการสร้างเสริมสุขภาพผ่านกระบวนการคุณภาพเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน (Sustainable Health Care and Health Promotion Be Appreciation and Accreditation : SHA) เพื่อขับเคลื่อนระบบสุขภาพของประเทศ เป็นการผสมผสานแนวคิดการพัฒนาคุณภาพด้วยมิติจิตใจ ใช้มุมมองที่ละเอียดอ่อน ความหมายและคุณค่าของชีวิตเข้าไปในระบบบริการอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีโรงพยาบาลนำร่องจำนวน 124 แห่งที่มุ่งอยากเห็นโรงพยาบาลมีความปลอดภัย มีมาตรฐาน ผสมผสานมิติจิตใจของคนทำงาน มีความประณีต ทำงานร่วมกับชุมชนได้ ทำงานอยู่บนพื้นฐานของความรัก ความเอื้ออาทร ผู้รับบริการและคนทำงานมีความสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น