กรมอนามัย ดันแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 จับมือกรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลงนาม MOU แก้ปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (12 ธ.ค.) นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในพิธีลงนามความร่วมมือด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ตามแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2555-2559 ระหว่างกรมอนามัย กรมควบคุมมลพิษ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี ว่าตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2555-2559 เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2555 ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบกับในปัจจุบันท้องถิ่นกำลังเผชิญกับปัญหาความเป็นเมือง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพประชาชนได้ทั้งสิ้น กรมอนามัย กรมควบคุมมลพิษ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทโดยตรงในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงจัดพิธีลงนามความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานขึ้น เพื่อเป็นการผลักดันแผนยุทธศาสตร์ฯ ลงสู่การปฏิบัติ และสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งทางด้านวิชาการ การพัฒนาบุคลากร ระบบงานอนามัยสิ่งแวดล้อม และระบบกฎหมายให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ฉบับแก้ไข พ.ศ. 2550
“ทั้งนี้ ความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มที่ดีในการร่วมกันพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการบูรณาการการดำเนินงานและร่วมกำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินงานด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในที่สุดก็จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว
นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มสมรรถนะและความพร้อมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญให้มีศักยภาพในการถ่ายทอดยุทธศาสตร์การจัดการงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติไปสู่การปฏิบัติงานระดับพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ระบบงาน และต้นแบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะที่ต้องเป็นผู้ดูแลสิ่งแวดล้อมและดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ การสนับสนุนและให้คำปรึกษาในการดำเนินงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และการร่วมในโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม
นายแก่นเพชร ช่วงรังสี อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด สามารถเข้าถึงและดำเนินการปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนได้ทันท่วงที การที่กรมอนามัยและกรมควบคุมมลพิษเห็นความสำคัญและสนับสนุนบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการพัฒนา และให้คำปรึกษาแนะนำนั้น จะช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดการปัญหาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม รวมถึงการผลักดัน สนับสนุนการดำเนินงานในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านบุคลากร ระบบงานอนามัยสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น ตลอดจนการออกกฎหมายและข้อกำหนดท้องถิ่นให้สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (12 ธ.ค.) นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในพิธีลงนามความร่วมมือด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ตามแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2555-2559 ระหว่างกรมอนามัย กรมควบคุมมลพิษ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี ว่าตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2555-2559 เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2555 ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบกับในปัจจุบันท้องถิ่นกำลังเผชิญกับปัญหาความเป็นเมือง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพประชาชนได้ทั้งสิ้น กรมอนามัย กรมควบคุมมลพิษ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทโดยตรงในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงจัดพิธีลงนามความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานขึ้น เพื่อเป็นการผลักดันแผนยุทธศาสตร์ฯ ลงสู่การปฏิบัติ และสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งทางด้านวิชาการ การพัฒนาบุคลากร ระบบงานอนามัยสิ่งแวดล้อม และระบบกฎหมายให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ฉบับแก้ไข พ.ศ. 2550
“ทั้งนี้ ความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มที่ดีในการร่วมกันพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการบูรณาการการดำเนินงานและร่วมกำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินงานด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในที่สุดก็จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว
นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มสมรรถนะและความพร้อมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญให้มีศักยภาพในการถ่ายทอดยุทธศาสตร์การจัดการงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติไปสู่การปฏิบัติงานระดับพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ระบบงาน และต้นแบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะที่ต้องเป็นผู้ดูแลสิ่งแวดล้อมและดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ การสนับสนุนและให้คำปรึกษาในการดำเนินงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และการร่วมในโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม
นายแก่นเพชร ช่วงรังสี อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด สามารถเข้าถึงและดำเนินการปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนได้ทันท่วงที การที่กรมอนามัยและกรมควบคุมมลพิษเห็นความสำคัญและสนับสนุนบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการพัฒนา และให้คำปรึกษาแนะนำนั้น จะช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดการปัญหาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม รวมถึงการผลักดัน สนับสนุนการดำเนินงานในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านบุคลากร ระบบงานอนามัยสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น ตลอดจนการออกกฎหมายและข้อกำหนดท้องถิ่นให้สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ