สพฐ.เล็งของบ 1.5 หมื่นล้านจ่ายวิทยฐานะให้กลุ่มที่ค้างจ่าย เฉพาะกลุ่มค้างจ่ายในปีงบ 2554 เตรียมเสนอของบกลางปี 56 มาจ่ายแทน ส่วนที่เหลือจะตั้งงบปี 57 “ชินภัทร” แจงการตั้งงบจ่ายวิทยฐานะต้องเสนอตามจำนวนจริงของผู้ผ่านประเมินเท่านั้น ไม่มีการประมาณการตัวเลข
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการจัดสรรเงินวิทยฐานะให้แก่ครูที่ผ่านการประเมินเพื่อขอมีและเลื่อนวิทยฐานะแล้วจำนวนหนึ่ง แต่กลับยังไม่ได้รับเงินวิทยฐานะตั้งแต่เดือน ส.ค. 2554 ถึงเดือน พ.ย. 2555 ดังนั้นที่ประชุมจึงมีแนวทางว่าในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 2554 จะขอใช้งบประมาณกลาง ส่วนเดือน ต.ค. 2554-พ.ย. 2555 จะตั้งงบประมาณของปีงบประมาณ 2557 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ครู ทั้งนี้ ตนรู้สึกเห็นใจครูกลุ่มนี้มาก เพราะกว่าจะผ่านการประเมินวิทยฐานะก็ยากมากพอแล้ว ตนจึงอยากให้ครูได้รับเงินอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากนี้มีการวางแผนไว้แล้วว่าครูที่ผ่านการประเมินวิทยฐานะจะต้องให้ได้รับเงินในปีงบประมาณถัดไปทันทีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเงินค้างจ่ายในลักษณะนี้อีก
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีการค้างจ่ายเงินวิทยฐานะมาตั้งแต่เดือน ส.ค. 2554 จนถึงเดือน พ.ย. 2555 ดังนั้น สพฐ.จึงได้เตรียมเสนอขอตั้งงบฯ แบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ตามห้วงเวลา ได้แก่ เงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2554 เดือน ส.ค.-ก.ย. 2554 ประมาณ 1,800 ล้านบาท เงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2555 เดือน ต.ค. 2554-ก.ย. 2555 ประมาณ 13,000 ล้านบาท และเงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2556 เดือน ต.ค.-พ.ย. 2555 ประมาณ 300 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 15,100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รมช.ศึกษาธิการเห็นว่าหลักของการตั้งงบฯ วิทยฐานะนั้นควรจะให้ค้างจ่ายได้ไม่เกิน 1 ปี ดังนั้นเงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2554 สพฐ.จะเสนอของบฯ กลางปี 2556 เพราะขณะนี้เวลาล่วงเลยมานานแล้ว และยอดเงินก็ไม่สูงเกินไป ส่วนเงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2555-2556 จะมีการตั้งงบฯ ในปีงบฯ 2557 ทั้งนี้ การตั้งงบฯ วิทยฐานะนั้นเป็นตัวเลขที่ไม่สามารถประมาณได้ จะต้องตั้งจากจำนวนจริงที่ครูผ่านการประเมินวิทยฐานะ เพราะสำนักงบประมาณจะไม่สามารถจัดสรรเงินให้ได้ในกรณีที่ครูยังไม่ผ่านการประเมิน จึงทำให้ไม่สามารถตั้งงบฯ ไว้ล่วงหน้าได้ก่อน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการจัดสรรเงินวิทยฐานะให้แก่ครูที่ผ่านการประเมินเพื่อขอมีและเลื่อนวิทยฐานะแล้วจำนวนหนึ่ง แต่กลับยังไม่ได้รับเงินวิทยฐานะตั้งแต่เดือน ส.ค. 2554 ถึงเดือน พ.ย. 2555 ดังนั้นที่ประชุมจึงมีแนวทางว่าในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 2554 จะขอใช้งบประมาณกลาง ส่วนเดือน ต.ค. 2554-พ.ย. 2555 จะตั้งงบประมาณของปีงบประมาณ 2557 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ครู ทั้งนี้ ตนรู้สึกเห็นใจครูกลุ่มนี้มาก เพราะกว่าจะผ่านการประเมินวิทยฐานะก็ยากมากพอแล้ว ตนจึงอยากให้ครูได้รับเงินอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากนี้มีการวางแผนไว้แล้วว่าครูที่ผ่านการประเมินวิทยฐานะจะต้องให้ได้รับเงินในปีงบประมาณถัดไปทันทีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเงินค้างจ่ายในลักษณะนี้อีก
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีการค้างจ่ายเงินวิทยฐานะมาตั้งแต่เดือน ส.ค. 2554 จนถึงเดือน พ.ย. 2555 ดังนั้น สพฐ.จึงได้เตรียมเสนอขอตั้งงบฯ แบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ตามห้วงเวลา ได้แก่ เงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2554 เดือน ส.ค.-ก.ย. 2554 ประมาณ 1,800 ล้านบาท เงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2555 เดือน ต.ค. 2554-ก.ย. 2555 ประมาณ 13,000 ล้านบาท และเงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2556 เดือน ต.ค.-พ.ย. 2555 ประมาณ 300 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 15,100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รมช.ศึกษาธิการเห็นว่าหลักของการตั้งงบฯ วิทยฐานะนั้นควรจะให้ค้างจ่ายได้ไม่เกิน 1 ปี ดังนั้นเงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2554 สพฐ.จะเสนอของบฯ กลางปี 2556 เพราะขณะนี้เวลาล่วงเลยมานานแล้ว และยอดเงินก็ไม่สูงเกินไป ส่วนเงินค้างจ่ายประจำปีงบฯ 2555-2556 จะมีการตั้งงบฯ ในปีงบฯ 2557 ทั้งนี้ การตั้งงบฯ วิทยฐานะนั้นเป็นตัวเลขที่ไม่สามารถประมาณได้ จะต้องตั้งจากจำนวนจริงที่ครูผ่านการประเมินวิทยฐานะ เพราะสำนักงบประมาณจะไม่สามารถจัดสรรเงินให้ได้ในกรณีที่ครูยังไม่ผ่านการประเมิน จึงทำให้ไม่สามารถตั้งงบฯ ไว้ล่วงหน้าได้ก่อน