FIFA ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมสนามฟุตซอลอีกครั้ง 30 ต.ค.นี้ ก่อนแจ้งผลตัดสิน ขณะที่ กทม.เตรียมแผนสำรองหากพื้นสนามติดอยู่จีนส่งมาไม่ทัน แต่มั่นใจติดตั้งพื้นไม้สนามฟุตซอลได้ทันตามกำหนด
วันนี้ (29 ต.ค.) เวลา 13.00 น.นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังตรวจความพร้อมสนาม Bangkok Futsal Arena หนองจอก ร่วมกับ FIFA ว่า วันนี้ เจ้าหน้าที่ FIFA ทั้งในส่วนของการจัดการแข่งขัน communication และส่วนกายภาพ ได้มาตรวจความคืบหน้าและความพร้อมของสนามการแข่งขันที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อการแข่งขันรอบ SEMI FINAL และรอบ FINAL ซึ่งทาง FIFA ได้สำรวจความพร้อมทั้งสนามแข่งขัน และห้องต่างๆ อาทิ ห้องประชุม ห้องทำงานของ FIFA ห้องพักนักกีฬา ห้องน้ำ ซึ่งกทม. จะเร่งต้องรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ FIFA จะกลับไปทำรายงานแก่ทางผู้บริหาร และประสานกับคณะกรรมการจัดการแข่งขัน (LOC) เพื่อตัดสินใจใช้สนามในการแข่งขันรอบ SEMI FINAL และรอบ FINAL ต่อไป
นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ (30 ต.ค.) FIFA จะเข้ามาตรวจความพร้อมของสนาม เพื่อประกอบการรายงานอีกครั้ง หลังจากนั้น 1-2 วัน ก็จะทราบว่า สนาม Bangkok Futsal Arena หนองจอก จะได้ใช้ทำการแข่งขันหรือไม่ สำหรับวันที่ 30 ต.ค.นี้ กทม.จะพร้อมเปิดการแข่งขันฟุตซอลนัดพิเศษเปิดสนามระหว่างทีม BMA All Star พบกับ ทีมสื่อมวลชน เพื่อเป็นการทดสอบความพร้อมของสนามแข่งขัน ระบบต่างๆ ของสนาม อาทิ ที่นั่ง ความปลอดภัย แอร์ น้ำ และระบบไฟ เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นวันซ้อมใหญ่ก่อนการใช้สนามจริงของสนามแห่งนี้
ด้านนายวสันต์ มีวงษ์ โฆษก กทม.กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ในการก่อสร้างสนามฟุตซอลหนองจอกนั้น กทม.ได้ดำเนินการตามที่ฟีฟ่ากำหนดทุกประการ ทั้งการจัดเตรียมห้อง PRESS ROOM ห้องทำงานสำหรับเจ้าหน้าที่ เหลือเพียงรายละเอียดอีกเล็กน้อยเท่านั้น ในส่วนของห้อง VIP ก็ดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว ที่นั่งภายในสนามที่ฟีฟ่ากำหนดให้มีการติดตั้ง 3 ชั้น แต่กทม.ได้ดำเนินการติดตั้งครบทั้ง 5 ชั้น จำนวน 12,000 ที่นั่งแล้ว ระบบเสียง ไฟ สกอร์บอร์ด มีการติดตั้งพร้อมทดสอบเรียบร้อยแล้ว ห้องน้ำ สุขา ห้องแต่งตัว ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าดำเนินการไปแล้ว 90% คาดว่า จะแล้วเสร็จเร็วนี้เช่นกัน สำหรับภายนอกสนามนั้น มีการปรับภูมิทัศน์ภายนอก ปูหญ้า ปลูกต้นไม้ ไปแล้วกว่า 90% มีการติดตั้งเสาไฟฟ้า และเสาสำหรับติดธงชาติทุกประเทศเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นสนามที่ยังมีการดำเนินการติดตั้งไม่แล้วเสร็จนั้น ข้อเท็จจริง คือ กทม.ได้สั่งพื้นไม้สนามซึ่งผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับสนามที่อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก และสั่งก่อนสนามที่หัวหมากถึง 3 เดือน แต่ปรากฏว่า สนามที่หัวหมากกลับได้รับการส่งของตรงจากอเมริกาถึงหัวหมากก่อน แต่สนามของหนองจอกกลับส่งผ่านประเทศจีน และติดศุลกากร เนื่องจากได้รับการแจ้งว่า สนามมีส่วนประกอบของพื้นไม้ ซึ่งอาจอยู่ในข้อกำหนดของการส่งออกส่วนที่เป็นพืชและอาหาร ทำให้ กทม.ไม่สามารถรับพื้นไม้ตามกำหนดได้ อย่างไรก็ดี ผู้ว่าฯ กทม.ได้เตรียมแผนสำรองเพื่อเตรียมแก้ปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
นายวสันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับด้านความปลอดภัยของสนามที่หลายฝ่ายแสดงความกังวล เนื่องจาก กทม.ดำเนินการก่อสร้างในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้น ผู้ว่าฯ กทม.ได้ให้ความความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการก่อสร้างครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง และ กทม.ก็สามารถดำเนินให้สำเร็จไปได้ด้วยดี ซึ่งสนามลักษณะนี้ ปกติแล้วต้องใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 500 วัน แต่ กทม.ใช้เวลาในการก่อสร้างเพียง 270 วัน โดยก่อสร้างตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ช่วยให้ กทม.สามารถทำงานได้ตามกำหนดระยะเวลา ในส่วนของความแข็งแรงของโครงสร้างก็ได้ใช้เทคนิคในด้านวิศวกรรม ทำให้สามารถดำเนินการได้โดยเร็วเช่นเดียวกัน ซึ่งการก่อสร้างสนามที่คลุมพื้นที่ถึง 10 ไร่ ไม่มีเสากลาง ถือเป็นผลงานด้านวิศวกรรมที่สำคัญของ กทม.
ทั้งนี้ กทม.จะจัดให้มีพิธีเปิดสนามอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ต.ค.2555 โดยในเวลา 08.30 น.เป็นพิธีทางศาสนาอิสลาม เวลา 10.30 น.พิธีสงฆ์ ช่วงบ่ายเป็นพิธีพราหมณ์ และในเวลา 16.00 น.จะจัดให้มีการแข่งขันฟุตซอลของผู้พิการทางสายตา และเวลา 17.00 น.เป็นการแข่งขันระหว่างคณะผู้บริหาร กทม.กับสื่อมวลชน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการทดสอบความพร้อมของสนามด้วย
วันนี้ (29 ต.ค.) เวลา 13.00 น.นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังตรวจความพร้อมสนาม Bangkok Futsal Arena หนองจอก ร่วมกับ FIFA ว่า วันนี้ เจ้าหน้าที่ FIFA ทั้งในส่วนของการจัดการแข่งขัน communication และส่วนกายภาพ ได้มาตรวจความคืบหน้าและความพร้อมของสนามการแข่งขันที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อการแข่งขันรอบ SEMI FINAL และรอบ FINAL ซึ่งทาง FIFA ได้สำรวจความพร้อมทั้งสนามแข่งขัน และห้องต่างๆ อาทิ ห้องประชุม ห้องทำงานของ FIFA ห้องพักนักกีฬา ห้องน้ำ ซึ่งกทม. จะเร่งต้องรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ FIFA จะกลับไปทำรายงานแก่ทางผู้บริหาร และประสานกับคณะกรรมการจัดการแข่งขัน (LOC) เพื่อตัดสินใจใช้สนามในการแข่งขันรอบ SEMI FINAL และรอบ FINAL ต่อไป
นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ (30 ต.ค.) FIFA จะเข้ามาตรวจความพร้อมของสนาม เพื่อประกอบการรายงานอีกครั้ง หลังจากนั้น 1-2 วัน ก็จะทราบว่า สนาม Bangkok Futsal Arena หนองจอก จะได้ใช้ทำการแข่งขันหรือไม่ สำหรับวันที่ 30 ต.ค.นี้ กทม.จะพร้อมเปิดการแข่งขันฟุตซอลนัดพิเศษเปิดสนามระหว่างทีม BMA All Star พบกับ ทีมสื่อมวลชน เพื่อเป็นการทดสอบความพร้อมของสนามแข่งขัน ระบบต่างๆ ของสนาม อาทิ ที่นั่ง ความปลอดภัย แอร์ น้ำ และระบบไฟ เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นวันซ้อมใหญ่ก่อนการใช้สนามจริงของสนามแห่งนี้
ด้านนายวสันต์ มีวงษ์ โฆษก กทม.กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ในการก่อสร้างสนามฟุตซอลหนองจอกนั้น กทม.ได้ดำเนินการตามที่ฟีฟ่ากำหนดทุกประการ ทั้งการจัดเตรียมห้อง PRESS ROOM ห้องทำงานสำหรับเจ้าหน้าที่ เหลือเพียงรายละเอียดอีกเล็กน้อยเท่านั้น ในส่วนของห้อง VIP ก็ดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว ที่นั่งภายในสนามที่ฟีฟ่ากำหนดให้มีการติดตั้ง 3 ชั้น แต่กทม.ได้ดำเนินการติดตั้งครบทั้ง 5 ชั้น จำนวน 12,000 ที่นั่งแล้ว ระบบเสียง ไฟ สกอร์บอร์ด มีการติดตั้งพร้อมทดสอบเรียบร้อยแล้ว ห้องน้ำ สุขา ห้องแต่งตัว ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าดำเนินการไปแล้ว 90% คาดว่า จะแล้วเสร็จเร็วนี้เช่นกัน สำหรับภายนอกสนามนั้น มีการปรับภูมิทัศน์ภายนอก ปูหญ้า ปลูกต้นไม้ ไปแล้วกว่า 90% มีการติดตั้งเสาไฟฟ้า และเสาสำหรับติดธงชาติทุกประเทศเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นสนามที่ยังมีการดำเนินการติดตั้งไม่แล้วเสร็จนั้น ข้อเท็จจริง คือ กทม.ได้สั่งพื้นไม้สนามซึ่งผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับสนามที่อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก และสั่งก่อนสนามที่หัวหมากถึง 3 เดือน แต่ปรากฏว่า สนามที่หัวหมากกลับได้รับการส่งของตรงจากอเมริกาถึงหัวหมากก่อน แต่สนามของหนองจอกกลับส่งผ่านประเทศจีน และติดศุลกากร เนื่องจากได้รับการแจ้งว่า สนามมีส่วนประกอบของพื้นไม้ ซึ่งอาจอยู่ในข้อกำหนดของการส่งออกส่วนที่เป็นพืชและอาหาร ทำให้ กทม.ไม่สามารถรับพื้นไม้ตามกำหนดได้ อย่างไรก็ดี ผู้ว่าฯ กทม.ได้เตรียมแผนสำรองเพื่อเตรียมแก้ปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
นายวสันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับด้านความปลอดภัยของสนามที่หลายฝ่ายแสดงความกังวล เนื่องจาก กทม.ดำเนินการก่อสร้างในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้น ผู้ว่าฯ กทม.ได้ให้ความความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการก่อสร้างครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง และ กทม.ก็สามารถดำเนินให้สำเร็จไปได้ด้วยดี ซึ่งสนามลักษณะนี้ ปกติแล้วต้องใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 500 วัน แต่ กทม.ใช้เวลาในการก่อสร้างเพียง 270 วัน โดยก่อสร้างตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ช่วยให้ กทม.สามารถทำงานได้ตามกำหนดระยะเวลา ในส่วนของความแข็งแรงของโครงสร้างก็ได้ใช้เทคนิคในด้านวิศวกรรม ทำให้สามารถดำเนินการได้โดยเร็วเช่นเดียวกัน ซึ่งการก่อสร้างสนามที่คลุมพื้นที่ถึง 10 ไร่ ไม่มีเสากลาง ถือเป็นผลงานด้านวิศวกรรมที่สำคัญของ กทม.
ทั้งนี้ กทม.จะจัดให้มีพิธีเปิดสนามอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ต.ค.2555 โดยในเวลา 08.30 น.เป็นพิธีทางศาสนาอิสลาม เวลา 10.30 น.พิธีสงฆ์ ช่วงบ่ายเป็นพิธีพราหมณ์ และในเวลา 16.00 น.จะจัดให้มีการแข่งขันฟุตซอลของผู้พิการทางสายตา และเวลา 17.00 น.เป็นการแข่งขันระหว่างคณะผู้บริหาร กทม.กับสื่อมวลชน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการทดสอบความพร้อมของสนามด้วย
