คณบดีดุริยางค์ฯ ชี้ บัณฑิตจบดนตรีว่างงานเพียบ เป็นทั้งไทยและเทศ เหตุมีตลาดรองรับจำกัด แนะบัณฑิตรุ่นใหม่ที่อยากมีงานทำอย่าปิดกั้นตนเอง และต้องมีความสามารถหลากหลาย ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญดนตรี ฝากรัฐหนุนตั้งวงดุริยางคศิลป์ตามท้องถิ่นทุกภาค
นายดำริห์ บรรณวิทยกิจ คณบดีคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาประมาณ 10 ปีที่ผ่านมานั้น พบว่า เด็กเยาวชนไทยสนใจเรียนด้านดนตรีศึกษามากขึ้น โดยเห็นได้จากสัดส่วนการแข่งขันในการสอบการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อคณะที่จัดการเรียนการสอนด้านดนตรีจากเดิมที่มีสัดส่วน 3 ต่อ 1 เพิ่มเป็น 5-7ต่อ 1 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสาเหตุที่ทำให้เด็กเยาวชนหันมาสนใจด้านดนตรี ส่วนหนึ่งเพราะเด็กเยาวชนในปัจจุบันมีความกล้าแสดงออก และรู้จักหาเวทีในการแสดงความสามารถ และปัจจุบันก็มีเด็กที่จบสาขาด้านดนตรีเพิ่มจำนวนมากขึ้น และการเพิ่มจำนวนนี่เองที่ส่งผลให้เกิดปัญหาการว่างงานตามมา เนื่องจากตลาดรองรับบัณฑิตเหล่านี้มีจำกัด แต่ไม่ใช่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่ประสบปัญหานี้ แม้แต่นักดนตรีต่างประเทศก็หางานทำได้ยากเช่นเดียวกัน ดังนั้น หากนักดนตรี หรือบัณฑิตที่จบสาขาดนตรีต้องการมีงานทำ ควรต้องมีทักษะ ความสามารถที่หลากหลาย ทั้งเล่นดนตรี แต่งเพลง มีความรู้ด้านบริหาร สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ ไม่ใช่เล่นดนตรีเป็นเพียงอย่างเดียว และอย่าปิดกั้นโอกาสตนเอง
ด้าน นายกิตติคุณ สดประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี สาขาเชิงพาณิชย์ คณะดุริยางคศาสตร์ มศก.กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เด็กเยาวชนไทยหันมาเรียนดนตรีมากขึ้น เกิดจากทางการแพทย์ที่ระบุว่าดนตรีสามารถบำบัด พัฒนาอีคิวและไอคิวให้กับเด็กได้ตั้งอยู่ในครรภ์ จนเกิดเป็นกระแสนิยมทำให้พ่อแม่ส่งเสริมให้ลูกเรียนดนตรี อีกทั้งหาวิทยาลัยในตอนนี้มีการเปิดการเรียนการสอนด้านดนตรีจำนวนมาก ทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ที่ผลิตบัณฑิตเพื่อเป็นครูสอนดนตรี ขณะที่มหาวิทยาลัยรัฐ เช่น จุฬาฯ ม.เกษตรศาสตร์ ม.มหิดล จะผลิตผู้ชำนาญดนตรีเฉพาะด้าน ทำให้ผลผลิตออกมา จนบัณฑิตต้องกอดคอกันหางานตามตลาดแรงงาน และประเทศไทยมีพื้นที่รองรับเยาวชนเหล่านี้น้อยเกินไป ขณะนี้ รัฐบาลมีการสนับสนุนวงดุริยางค์เพียงไม่กี่วง เช่น วงดุริยางค์ศิลปากร วงดุริยางค์ของ 3 เหล่าทัพ วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย ของ ม.มหิดล วงดุริยางค์ซิมโฟนีออเคสตร้า ทั้งที่เด็กที่เรียนด้านดนตรีคลาสสิก หรือวงดุริยางค์มีมากขึ้น จึงอยากเห็นทั้งภาครัฐและภาคเอกชนช่วยสนับสนุนให้เกิดวงดุริยางคศิลป์เกิดตามท้องถิ่นทุกภาค เพื่อเป็นตลาดรองรับเยาวชนที่จบออกมา เพราะเด็กที่จบออกมาก็ต้องการมีวงเล่น มีวงเป็นของตนเอง หรือเป็นครูสอนดนตรี ขณะที่นักดนตรีรุ่นใหม่ซึ่งมีความสามารถมากก็ต้องเสียสละ ต้องทำให้คนรู้จักเราก่อน ด้วยการลดความเป็นตัวตน และเดินเข้าหาประชาชนมากขึ้น