เตือนผู้ประสบภัยตั้งวงก๊งเหล้า ขณะแช่น้ำท่วม เสี่ยงจมน้ำตายจากตะคริว เหตุน้ำเย็น ตัวเย็น เมาไม่ได้สติ พบการตายระหว่างน้ำท่วม 30% มาจากการเมาเหล้า ด้าน “ฉะเชิงเทรา-นครนายก” เตรียมความพร้อมการแพทย์-สาธารณสุข รับมือ “น้องน้ำ” แล้ว
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านบอกว่าสถานการณ์ในปีนี้รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี เนื่องจากปริมาณน้ำ มากและไหลเชี่ยว จึงเป็นห่วงประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการใช้เรือ โดยขอให้เตรียมอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ เช่น ถังน้ำเปล่า โฟมขนาดใหญ่ ลูกมะพร้าวแห้งผูกมัดติดกันไว้ประจำเรือ หากเกิดอุบัติเหตุจะสามารถใช้พยุงตัวให้ลอยน้ำ ช่วยชีวิตได้
นพ.สุรวิทย์ กล่าวอีกว่า ที่น่าห่วงพบว่า มีประชาชนดื่มสุราขณะนั่งแช่น้ำ เป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตราย อาจจมน้ำเสียชีวิตได้จากตะคริว เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะไปขยายหลอดเลือดฝอย ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อน อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำหรือตัวเย็น และเมื่อนั่งแช่น้ำก็จะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนมากขึ้น ทำให้เกิดตะคริวขา หรือเมาขาดสติ ทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากจมน้ำหรือถูกกระแสน้ำพัด จึงขอให้หลีกเลี่ยงดื่มสุราขณะน้ำท่วม ซึ่งที่ผ่านมาการเสียชีวิต จากการจมน้ำขณะมีน้ำท่วม นอกจากจะเกิดในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยโรคประจำตัว เช่น ลมชัก หรือลมบ้าหมูแล้ว ยังพบว่ามีสาเหตุมาจากการเมาสุรา ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 30 และมักพบในผู้ใหญ่ วัยแรงงาน
ด้าน นพ.ธวัธชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการ สธ.ประจำเขต 3 กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางไปติดตามความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในการรับมือน้ำท่วมที่ จ.ฉะเชิงเทรา และนครนายก ซึ่งจะมีมวลน้ำจากสระแก้ว ไปถึงใน 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งมี 3 ชุด คือ ศูนย์บัญชาการ หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ และหน่วยจรยุทธ์เข้าพื้นที่ โดยสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.ปราจีนบุรี โดยเฉพาะที่ อ.กบินทร์บุรีซึ่งวิกฤติที่สุด หน่วยแพทย์กู้ชีพได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุก เฉินจำนวน 30 ราย นำส่งโรงพยาบาล ส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ทุกรายปลอดภัย
สำหรับน้ำท่วมที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่ผ่านมา ทีมแพทย์กู้ชีพ ได้ช่วยชีวิตคนจมน้ำ 3 ราย จนปลอดภัย ประกอบด้วย เด็ก 2 ราย และทหาร 1 นาย ซึ่งเป็นทหารที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยใช้เชือกโรยตัวฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวและถูกกระแสน้ำพัดลงไปในท่อระบายน้ำลอด ใต้ถนน นานประมาณ 5 นาที ไม่สามารถดึงทหารออกมาได้ จึงตัดเชือกและให้ทหารไหลออกทางปลายท่อ จากนั้นทีมแพทย์กู้ชีพได้ปั๊มหัวใจ ผายปอด นาน 15 นาที และส่งตัวรักษาห้องไอ.ซี.ยู.ที่ รพ.อรัญประเทศ 2 วัน ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว และพักฟื้นต่อที่ค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หากประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม เจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรแจ้งสายด่วนกู้ชีพ 1669 หรือขอความช่วยเหลือจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง