“วิทยา” สั่ง สสจ.ในพื้นที่น้ำลด เข้าสู่ระยะฟื้นฟู ดูแลแนะนำประชาชนเรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม ป้องกันโรคระบาดหลังน้ำท่วม ส่วนจังหวัดที่ยังมีน้ำท่วมให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการประชาชนจนกว่าสถานการณ์ปกติ ผลออกหน่วยพบผู้ป่วย 4,939 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ วิตกกังวล นอนไม่หลับ
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดภาคเหนือและภาคกลางว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 13 จังหวัด ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขในจังหวัดที่น้ำท่วม เฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคที่มากับน้ำท่วม และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติ ผลการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน - 13 กันยายน 2555 พบผู้ป่วย 4,939 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีความเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ และปวดศีรษะ
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในส่วนของพื้นที่ที่ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ระยะฟื้นฟู เช่นอุตรดิตถ์ พิจิตร กำแพงเพชร อุทัยธานี ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม.เร่งดำเนินการดูแล แนะนำประชาชนเรื่องความสะอาดของอนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งบ่อน้ำ ห้องน้ำห้องสุขาในบ้านเรือน สถานที่สาธารณะ การทำความสะอาดบ้านเรือน และให้เฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดหลังน้ำท่วม ที่สำคัญคือ ไข้เลือดออก อุจจาระร่วง และโรคฉี่หนู
“ในพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว เมื่อประชาชนจะกลับเข้าไปพักอาศัยในบ้าน นอกจากการทำความสะอาดบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แล้ว ขอให้ตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เช่น ปลั๊กไฟ สายไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้มั่นใจว่าปลอดภัยก่อนนำกลับมาใช้ และดูแลบริเวณบ้านให้สะอาด กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์พาหะนำโรค เช่น ยุง แมลงวัน และหนู เพื่อป้องกันโรคระบาดหลังน้ำท่วม” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาทางตอนล่าง และจังหวัดอื่นๆ ที่อาจเกิดน้ำท่วมตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมตาม 9 มาตรการของกระทรวงสาธารณสุขไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และพร้อมช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุดหากเกิดน้ำท่วมขึ้น
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดภาคเหนือและภาคกลางว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 13 จังหวัด ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขในจังหวัดที่น้ำท่วม เฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคที่มากับน้ำท่วม และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติ ผลการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน - 13 กันยายน 2555 พบผู้ป่วย 4,939 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีความเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ และปวดศีรษะ
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในส่วนของพื้นที่ที่ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ระยะฟื้นฟู เช่นอุตรดิตถ์ พิจิตร กำแพงเพชร อุทัยธานี ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม.เร่งดำเนินการดูแล แนะนำประชาชนเรื่องความสะอาดของอนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งบ่อน้ำ ห้องน้ำห้องสุขาในบ้านเรือน สถานที่สาธารณะ การทำความสะอาดบ้านเรือน และให้เฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดหลังน้ำท่วม ที่สำคัญคือ ไข้เลือดออก อุจจาระร่วง และโรคฉี่หนู
“ในพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว เมื่อประชาชนจะกลับเข้าไปพักอาศัยในบ้าน นอกจากการทำความสะอาดบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แล้ว ขอให้ตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เช่น ปลั๊กไฟ สายไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้มั่นใจว่าปลอดภัยก่อนนำกลับมาใช้ และดูแลบริเวณบ้านให้สะอาด กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์พาหะนำโรค เช่น ยุง แมลงวัน และหนู เพื่อป้องกันโรคระบาดหลังน้ำท่วม” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาทางตอนล่าง และจังหวัดอื่นๆ ที่อาจเกิดน้ำท่วมตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมตาม 9 มาตรการของกระทรวงสาธารณสุขไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และพร้อมช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุดหากเกิดน้ำท่วมขึ้น
