ส.ส.เพื่อไทย ออกโรงแจงข้อพิพาทเกาะดอนสวรรค์ ยันเป็นที่ดินสงฆ์ไม่ใช่ที่สาธารณประโยชน์
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่รัฐสภา น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งพระครูพิศาลสรนาท วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ แถลงถึงกรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับโฉนดวัดดอนสวรรค์ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร โดย น.ส.ลีลาวดี กล่าวว่า ตามที่นายกเทศมนตรีนครสกลนคร ทำหนังสือคัดค้านการออกโฉนดที่ดินให้กับวัดดอนสวรรค์ ซึ่งเดิมเคยเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษา ตั้งแต่ พ.ศ.2472 แต่ต่อมาไม่มีพระภิกษุสงฆ์จำวัดจึงถูกขึ้นทะเบียนเป็นวัดร้าง และต่อมาเมื่อมีพระพิษุสงฆ์ กลับไปจำวัดอีกครั้ง จึงได้มีการแจ้งแก้ไขการขึ้นทะเบียนเป็นวัดร้าง และกลับคืนสู่สภาพวัดที่มีพระจำศีล ตามปกติ แต่เนื่องจากโฉนดที่ดินของวัดดอนสวรรค์ ที่หายสาบสูญไป จึงแจ้งไปยังกรมที่ดิน เพื่อขอออกโฉนดใหม่ แต่ถูกคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า เทศบาลสกลนคร ได้พิจารณาแล้วไม่เห็นด้วยกับการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว เพราะเดิมที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่รกร้างว่างเปล่าสาธารณประโยชน์ ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
น.ส.ลีลาวดี กล่าวว่า แต่จากการพิจารณาของ อนุกรรมาธิการ เห็นว่า มีหลักฐานที่ชัดเจน และยืนยันได้ว่า มีการจดทะเบียนวัด โดยกระทรวงธรรมการ ตั้งแต่ พ.ศ.2472 และมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2472 พร้อมทั้งออกโฉนดที่ดิน ดังนั้น เมื่อที่ดินใดที่ตกเป็นของวัด จึงถือเป็นที่ธรณีสงฆ์ จะให้เห็นเป็นอื่นไม่ได้ จึงยืนยันว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ของวัด เป็นธรณีสงฆ์ ไม่ใช่ที่สาธารณประโยชน์ ตามที่นายกเทศมนตรีนครสกลนครกล่าวอ้าง
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่รัฐสภา น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งพระครูพิศาลสรนาท วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ แถลงถึงกรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับโฉนดวัดดอนสวรรค์ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร โดย น.ส.ลีลาวดี กล่าวว่า ตามที่นายกเทศมนตรีนครสกลนคร ทำหนังสือคัดค้านการออกโฉนดที่ดินให้กับวัดดอนสวรรค์ ซึ่งเดิมเคยเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษา ตั้งแต่ พ.ศ.2472 แต่ต่อมาไม่มีพระภิกษุสงฆ์จำวัดจึงถูกขึ้นทะเบียนเป็นวัดร้าง และต่อมาเมื่อมีพระพิษุสงฆ์ กลับไปจำวัดอีกครั้ง จึงได้มีการแจ้งแก้ไขการขึ้นทะเบียนเป็นวัดร้าง และกลับคืนสู่สภาพวัดที่มีพระจำศีล ตามปกติ แต่เนื่องจากโฉนดที่ดินของวัดดอนสวรรค์ ที่หายสาบสูญไป จึงแจ้งไปยังกรมที่ดิน เพื่อขอออกโฉนดใหม่ แต่ถูกคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า เทศบาลสกลนคร ได้พิจารณาแล้วไม่เห็นด้วยกับการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว เพราะเดิมที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่รกร้างว่างเปล่าสาธารณประโยชน์ ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
น.ส.ลีลาวดี กล่าวว่า แต่จากการพิจารณาของ อนุกรรมาธิการ เห็นว่า มีหลักฐานที่ชัดเจน และยืนยันได้ว่า มีการจดทะเบียนวัด โดยกระทรวงธรรมการ ตั้งแต่ พ.ศ.2472 และมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2472 พร้อมทั้งออกโฉนดที่ดิน ดังนั้น เมื่อที่ดินใดที่ตกเป็นของวัด จึงถือเป็นที่ธรณีสงฆ์ จะให้เห็นเป็นอื่นไม่ได้ จึงยืนยันว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ของวัด เป็นธรณีสงฆ์ ไม่ใช่ที่สาธารณประโยชน์ ตามที่นายกเทศมนตรีนครสกลนครกล่าวอ้าง