ปรับลด สอบ เป็นอำนาจ ทปอ.

“สัมพันธ์-มณฑล” ย้ำ วัตถุประสงค์จัดสอบ O-net /GAT/PAT ต่างกัน การปรับลดการสอบเป็นเรื่องของ ทปอ.ตัดสินใจ

กรณีที่ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สอบถามถึงความเป็นไปได้จาก สทศ.ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะลดการทดสอบพื้นฐานของนักเรียนเหลือเพียงการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-Net เนื่องจากมองว่าตอนนี้เด็กต้องสอบเยอะมากนอกจาก O-Net ยังมีการทดสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT และการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT และขอให้ สทศ.ไปศึกษาดูว่าจะดำเนินการตามแนวคิดได้หรือไม่ เพราะมองว่าเป็นการทดสอบเหมือนกัน

รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดสอบแต่ละประเภทนั้น มีความแตกต่างกัน โดยการทดสอบ O-Net นั้นเป็นการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อวัดความรู้ของเด็กว่ามีแค่ไหน ให้กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่การสอบ GAT/PAT เป็นการจัดสอบเพื่อนำผลคะแนนไปใช้ในการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ที่สทศ.จัดให้กับ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เพื่อนำคะแนนไปใช้คัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิชชัน ดังนั้น หากจะให้ปรับลดการสอบลงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ทปอ.เป็นผู้ตัดสินใจ เพราะสทศ.เป็นเพียงหน่วยงานที่บริการจัดสอบเท่านั้น

ด้าน รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา (ม.พ.) อดีตประธานแอดมิชชันฟอรัม กล่าวว่า การสอบทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกัน คนละแบบ คนละจุดประสงค์ โดยการสอบโอเน็ตเป็นการวัดพื้นความรู้ของนักเรียนเป็นช่วงชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และ ม.6 ดังนั้น มาตรฐานข้อสอบจึงไม่ยากมากนัก เพราะใช้ทดสอบมาตรฐานความรู้ของเด็กทั้งประเทศ ไม่สามารถจำแยกความถนัดของเด็กได้ ส่วนการสอบ GAT/PAT เป็นการสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย จึงต้องใช้ข้อสอบที่ยาก และมีความจำแนกสูง ทั้งนี้ ส่วนตัวยอมรับว่าปัจจุบันเด็กยังต้องสอบเยอะอยู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะวัดความถนัดอะไรเด็กบ้าง หากต้องการวัดมากเด็กก็ต้องสอบ