ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก ระบุ สังคมไทยป่วย เด็กนิยมความรุนแรง ชี้ ส่งเด็กเข้าสถานพินิจแก้ปัญหาไม่เพียงพอ เร่งชุมชนปลูกฝังต้นทุนชีวิต กระตุ้นทำกิจกรรมเสริมพลังบวก-ฟังเสียงสะท้อนของเด็ก
วันนี้ (26 ก.ค.) นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผอ.สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สสส. กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปเด็กนักเรียนใช้เก้าอี้ฟาดใส่แม่บ้านเซ็นทรัลเวิลด์ ว่า นอกจากจะต้องพิจารณาถึงตัวเด็กที่ก่อเหตุแล้ว ยังอาจจะต้องพิจารณาลงไปถึงคนที่พาเด็กมา และอาจจะต้องมองลงไปถึงครอบครัว ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพราะการที่เด็กเรียนรู้การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา แสดงว่า เด็กอาจจะเห็นการใช้ความรุนแรงมาจากครอบครัว หรือการบริโภคสื่อ จึงคิดว่า การใช้ความรุนแรงจะแก้ปัญหาได้ ซึ่งการเลียนแบบลักษณะนี้ ถือเป็นกลไกการปกป้องทางสิทธิ์ที่ไม่ดี และหากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ก็สะท้อนให้เห็นว่า สังคมกำลังป่วย ส่วนตัวเห็นว่า การแก้ปัญหาของสังคมที่ใช้วิธีการกักกันเด็กในสถานพินิจ โดยเชื่อว่า เมื่อส่งเด็กกลับคืนสู่สังคมแล้ว เขาจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกตินั้น ไม่เพียงพอ นอกจากการลงโทษด้วยการกักกันแล้ว ควรมีการเสริมพลังด้านบวก และติดอาวุธทางปัญญา เพื่อให้เขาได้เรียนรู้การแก้ปัญหาอย่างมีทักษะชีวิต
นพ.สุริยเดว กล่าวด้วยว่า สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล ร่วมกับ แผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สำนักงานสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส.ได้สนับสนุนและพัฒนากระบวนการสร้างเสริมต้นทุนชีวิตเด็ก เป็นเครื่องมือที่เป็นเพียงกุศโลบาย ให้ชุมชนนำไปใช้ เพื่อเสริมพลังด้านบวกให้กับเด็กในชุมชน เพราะกลไกในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น อยู่ที่ชุมชนเอง ที่ต้องลุกขึ้นมาดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน โดยชุมชนต้องมีระบบการจัดการด้วยตนเอง ไม่รออำนาจจัดการจากส่วนบน และให้ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วม ฟังเสียงสะท้อนของเด็กในชุมชน จะทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมของเด็ก และสามารถสร้างกลไกในการป้องกันความรุนแรงได้ และต้องออกแบบกิจกรรมเพื่อเสริมพลังด้านบวกให้กับเด็ก เพื่อให้เขามีทักษะชีวิต และจิตสำนึกที่ดี
วันนี้ (26 ก.ค.) นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผอ.สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สสส. กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปเด็กนักเรียนใช้เก้าอี้ฟาดใส่แม่บ้านเซ็นทรัลเวิลด์ ว่า นอกจากจะต้องพิจารณาถึงตัวเด็กที่ก่อเหตุแล้ว ยังอาจจะต้องพิจารณาลงไปถึงคนที่พาเด็กมา และอาจจะต้องมองลงไปถึงครอบครัว ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพราะการที่เด็กเรียนรู้การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา แสดงว่า เด็กอาจจะเห็นการใช้ความรุนแรงมาจากครอบครัว หรือการบริโภคสื่อ จึงคิดว่า การใช้ความรุนแรงจะแก้ปัญหาได้ ซึ่งการเลียนแบบลักษณะนี้ ถือเป็นกลไกการปกป้องทางสิทธิ์ที่ไม่ดี และหากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ก็สะท้อนให้เห็นว่า สังคมกำลังป่วย ส่วนตัวเห็นว่า การแก้ปัญหาของสังคมที่ใช้วิธีการกักกันเด็กในสถานพินิจ โดยเชื่อว่า เมื่อส่งเด็กกลับคืนสู่สังคมแล้ว เขาจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกตินั้น ไม่เพียงพอ นอกจากการลงโทษด้วยการกักกันแล้ว ควรมีการเสริมพลังด้านบวก และติดอาวุธทางปัญญา เพื่อให้เขาได้เรียนรู้การแก้ปัญหาอย่างมีทักษะชีวิต
นพ.สุริยเดว กล่าวด้วยว่า สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล ร่วมกับ แผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สำนักงานสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส.ได้สนับสนุนและพัฒนากระบวนการสร้างเสริมต้นทุนชีวิตเด็ก เป็นเครื่องมือที่เป็นเพียงกุศโลบาย ให้ชุมชนนำไปใช้ เพื่อเสริมพลังด้านบวกให้กับเด็กในชุมชน เพราะกลไกในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น อยู่ที่ชุมชนเอง ที่ต้องลุกขึ้นมาดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน โดยชุมชนต้องมีระบบการจัดการด้วยตนเอง ไม่รออำนาจจัดการจากส่วนบน และให้ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วม ฟังเสียงสะท้อนของเด็กในชุมชน จะทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมของเด็ก และสามารถสร้างกลไกในการป้องกันความรุนแรงได้ และต้องออกแบบกิจกรรมเพื่อเสริมพลังด้านบวกให้กับเด็ก เพื่อให้เขามีทักษะชีวิต และจิตสำนึกที่ดี
