วธ.จี้ตรวจสอบสิทธิ์นายทุนรุกที่ทำกินชาวเล หลังถูกกีดกันใช้ที่ดิน
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการเพื่อฟื้นฟู วิถีชีวิตชาวเล ซึ่งมีผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานภายใต้คณะกรรมการบูรณาการเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล อาทิ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร กรมอุทยานแห่งชาติ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มูลนิธิชุมชนไท และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล พังงา ระนอง กระบี่ และภูเก็ต เข้าร่วมประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำมาหากินของชุมชนชาวเล ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับวิถีชีวิตในชุมชนชาวเลตาม 5 จังหวัดฝั่งอันดามัน พบว่า ปัญหาที่พบมากสุดคือความมั่นคงด้านที่ดินที่อยู่อาศัย เนื่องจากชุมชนชาวเลถูกกีดกันออกจากสิทธิในการใช้และเข้าถึงทรัพยากร ธรรมชาติ ทั้งการถูกไล่ที่และปิดกั้นไม่ให้มีพื้นที่ทำกินทั้งทางที่ดินและทางน้ำ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นกลุ่มชาวเลได้อ้างสิทธิ์ว่ามีการตั้งถิ่นฐานและอยู่ มานานหลายชั่วอายุคน ดังนั้นกลุ่มคนเหล่านี้จึงต้องการให้พิสูจน์สิทธิ์ในการครอบครองที่ดินของ ชาวเลกับการประกาศเป็นพื้นที่สงวนเพื่อการอนุรักษ์ของทางราชการ ทั้งนี้ ประชุมมีมติให้หาแนวทางตรวจสอบสิทธิ์การครอบครอง ที่ดินของชาวเลในเขตที่ดินของรัฐ รวมทั้งตรวจสอบกรรมสิทธิ์ในที่ดินและเจรจากับเจ้าของที่ดินหรือนายทุนที่เข้าไปบุกรุกเพื่อขอให้ชาวเลอาศัยอยู่ต่อไป
“จะเรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อเป็นการหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวเลในพื้นที่ต่างๆ สำหรับกรณีที่มีชาวเลออกเรือไปหาปลาในเขตพื้นที่ต้องห้าม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่รู้กฎหมายมาก่อน แล้วถูกดำเนินคดี นั้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ ได้กลับไปทบทวนระเบียบหรือข้อห้ามของแต่ละกรม เพื่อพิจารณาว่าจะมีช่องทางใดบ้างที่จะสามารถทำให้ชาวเลได้มี พื้นที่ทำมาหากินมากยิ่งขึ้น และไม่เข้าไปหาปลาในพื้นที่ต้องห้าม”นางสุกุมล กล่าว
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการเพื่อฟื้นฟู วิถีชีวิตชาวเล ซึ่งมีผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานภายใต้คณะกรรมการบูรณาการเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล อาทิ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร กรมอุทยานแห่งชาติ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มูลนิธิชุมชนไท และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล พังงา ระนอง กระบี่ และภูเก็ต เข้าร่วมประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำมาหากินของชุมชนชาวเล ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับวิถีชีวิตในชุมชนชาวเลตาม 5 จังหวัดฝั่งอันดามัน พบว่า ปัญหาที่พบมากสุดคือความมั่นคงด้านที่ดินที่อยู่อาศัย เนื่องจากชุมชนชาวเลถูกกีดกันออกจากสิทธิในการใช้และเข้าถึงทรัพยากร ธรรมชาติ ทั้งการถูกไล่ที่และปิดกั้นไม่ให้มีพื้นที่ทำกินทั้งทางที่ดินและทางน้ำ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นกลุ่มชาวเลได้อ้างสิทธิ์ว่ามีการตั้งถิ่นฐานและอยู่ มานานหลายชั่วอายุคน ดังนั้นกลุ่มคนเหล่านี้จึงต้องการให้พิสูจน์สิทธิ์ในการครอบครองที่ดินของ ชาวเลกับการประกาศเป็นพื้นที่สงวนเพื่อการอนุรักษ์ของทางราชการ ทั้งนี้ ประชุมมีมติให้หาแนวทางตรวจสอบสิทธิ์การครอบครอง ที่ดินของชาวเลในเขตที่ดินของรัฐ รวมทั้งตรวจสอบกรรมสิทธิ์ในที่ดินและเจรจากับเจ้าของที่ดินหรือนายทุนที่เข้าไปบุกรุกเพื่อขอให้ชาวเลอาศัยอยู่ต่อไป
“จะเรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อเป็นการหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวเลในพื้นที่ต่างๆ สำหรับกรณีที่มีชาวเลออกเรือไปหาปลาในเขตพื้นที่ต้องห้าม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่รู้กฎหมายมาก่อน แล้วถูกดำเนินคดี นั้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ ได้กลับไปทบทวนระเบียบหรือข้อห้ามของแต่ละกรม เพื่อพิจารณาว่าจะมีช่องทางใดบ้างที่จะสามารถทำให้ชาวเลได้มี พื้นที่ทำมาหากินมากยิ่งขึ้น และไม่เข้าไปหาปลาในพื้นที่ต้องห้าม”นางสุกุมล กล่าว