“สุชาติ” ยัน ไม่มีโรงเรียนใดปกปิดข้อมูลการระบาดโรคมือเท้าปาก ขอ ปชช.วางใจการดูแลนักเรียนของทุกโรงเรียน “ชินภัทร” เผย ยอดนักเรียนป่วยมือเท้าปากเพิ่มเป็น 43 คน แล้ว พร้อมกำชับเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศเฝ้าระวังเข้ม
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคมือเท้าปาก ซึ่งล่าสุดโรงเรียนหลายแห่งใน กทม.ต้องประกาศปิดเรียนชั่วคราว เนื่องจากมีนักเรียนป่วยเป็นโรคดังกล่าว รวมถึงโรงเรียนดัง อาทิ ร.ร.สาธิตจุฬาฯ และ ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย ว่า ศธ.ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างใกล้ชิด โดย สธ.จะจัดส่งแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญมายังโรงเรียนที่มีปัญหาทันที เพื่อดูแลนักเรียนที่ป่วย และทำความสะอาด ฆ่าเชื้อภายในโรงเรียน ส่วนการปิดโรงเรียนที่พบการระบาดของโรคนั้นให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารโรงเรียน
ศ.ดร.สุชาติ กล่าวด้วยว่า การระบาดของโรคมือเท้าปากในปีนี้ ไม่ได้รุนแรงกว่าปีที่แล้ว แต่ที่ดูรุนแรงเพราะมีการเสนอข่าว ฉะนั้น ขอให้ประชาชน ผู้ปกครอง และนักเรียน อย่ากังวลใจ โรงเรียนจะดูแลลูกหลานของประชาชนอย่างเต็มที่ และยืนยันว่า ไม่มีโรงเรียนใดตั้งใจจะปกปิดข้อมูลในเรื่องนี้ ผู้บริหารโรงเรียนทุกแห่งพยายามดูแลแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ แต่การจัดการเรียนการสอนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้น โรงเรียนจึงพยายามจะจัดการเรียนการสอนต่อไปให้ได้ก่อน ไม่ใช่เป็นความจงใจที่จะปกปิดข้อมูล
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แจ้งทาง SMS ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้คอยประสานงาน รับฟังข้อมูลจาก สธ.รวมถึงให้ปฏิบัติตาม 6 มาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคมือเท้าปากของ สพฐ.อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดในเย็นวันที่ 17 ก.ค.พบว่า มีนักเรียนในสังกัด สพฐ.ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก รวมทั้งหมด 43 คนแล้ว จากโรงเรียน 7 แห่ง ใน 6 เขตพื้นที่การศึกษา เพิ่มเติมจากตัวเลขในวันที่ 16 ก.ค.ซึ่งมีจำนวนนักเรียนป่วย 38 คน ใน 5 โรงเรียน
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคมือเท้าปาก ซึ่งล่าสุดโรงเรียนหลายแห่งใน กทม.ต้องประกาศปิดเรียนชั่วคราว เนื่องจากมีนักเรียนป่วยเป็นโรคดังกล่าว รวมถึงโรงเรียนดัง อาทิ ร.ร.สาธิตจุฬาฯ และ ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย ว่า ศธ.ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างใกล้ชิด โดย สธ.จะจัดส่งแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญมายังโรงเรียนที่มีปัญหาทันที เพื่อดูแลนักเรียนที่ป่วย และทำความสะอาด ฆ่าเชื้อภายในโรงเรียน ส่วนการปิดโรงเรียนที่พบการระบาดของโรคนั้นให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารโรงเรียน
ศ.ดร.สุชาติ กล่าวด้วยว่า การระบาดของโรคมือเท้าปากในปีนี้ ไม่ได้รุนแรงกว่าปีที่แล้ว แต่ที่ดูรุนแรงเพราะมีการเสนอข่าว ฉะนั้น ขอให้ประชาชน ผู้ปกครอง และนักเรียน อย่ากังวลใจ โรงเรียนจะดูแลลูกหลานของประชาชนอย่างเต็มที่ และยืนยันว่า ไม่มีโรงเรียนใดตั้งใจจะปกปิดข้อมูลในเรื่องนี้ ผู้บริหารโรงเรียนทุกแห่งพยายามดูแลแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ แต่การจัดการเรียนการสอนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้น โรงเรียนจึงพยายามจะจัดการเรียนการสอนต่อไปให้ได้ก่อน ไม่ใช่เป็นความจงใจที่จะปกปิดข้อมูล
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แจ้งทาง SMS ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้คอยประสานงาน รับฟังข้อมูลจาก สธ.รวมถึงให้ปฏิบัติตาม 6 มาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคมือเท้าปากของ สพฐ.อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดในเย็นวันที่ 17 ก.ค.พบว่า มีนักเรียนในสังกัด สพฐ.ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก รวมทั้งหมด 43 คนแล้ว จากโรงเรียน 7 แห่ง ใน 6 เขตพื้นที่การศึกษา เพิ่มเติมจากตัวเลขในวันที่ 16 ก.ค.ซึ่งมีจำนวนนักเรียนป่วย 38 คน ใน 5 โรงเรียน
