สวธ.ใช้กฎกระทรวง คัดศิลปินแห่งชาติปี 2555 เกิน 9 คนต่อปีได้ ปรับค่าตอบแทนจากเดือนละ 12,000 บาทตลอดชีวิต เป็นตามที่ สวธ.กำหนด
วันนี้ (6 มิ.ย.) นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ว่า ขณะนี้กฎกระทรวงประกอบ พ.ร.บ.วัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2553 ในส่วนของกฎกระทรวงกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2555 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที และยกเลิกกฎกระทรวงฉบับเดิม ดังนั้น การคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2555 จะนำกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวมาใช้ ซึ่งในกฎกระทรวงฉบับนี้ ได้แก้ไขข้อความบางส่วนใหม่ อาทิ แก้ไขความหมายของบทนิยามคำว่า “เงินตอบแทนประจำตำแหน่ง” เป็น “เงินค่าตอบแทน”
นางปริศนา กล่าวต่อว่า รวมทั้งข้อ 10 ของกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว ได้ปรับแก้ข้อความจากเดิม “เพื่อพิจารณาประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาละ 3 คน แต่ไม่เกิน 9 คน ในแต่ละปี” สวธ.ปรับแก้และตัดข้อความ “...สาขาละสามคนแต่ไม่เกิน 9 คนในแต่ละปี” ออก เนื่องจากการพิจารณาศิลปินแห่งชาติจะพิจารณาหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้ได้รับเสนอเป็นศิลปินแห่งชาติเป็นหลัก
อย่างเช่น การคัดเลือกศิลปินแห่งชาติในปี 2555 อาจจะมีศิลปินที่ได้รับการยกย่องรวมทุกสาขาแล้วเกิน 9 คน หรืออาจจะน้อยกว่า 9 คนก็ได้ เนื่องจากที่ผ่านมา มีการกำหนดจำนวนศิลปินแห่งชาติไว้ตายตัวเกินไป บางปีมีศิลปินที่มีคุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ ดังนั้น เป็นเรื่องยากที่จะสรรหาให้ครบทั้ง 9 คน ดังนั้น จึงแก้ไขกฎกระทรวงให้เปิดกว้างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจำนวนศิลปินแห่งชาติในแต่ละปี ต้องอยู่ภายใต้ปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล ที่สำคัญ ต้องยึดคุณสมบัติของศิลปินเป็นสำคัญด้วย
นางปริศนา กล่าวว่า ในข้อ 12(1) จากเดิม “เงินตอบแทนเดือนละสองหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่” ได้ปรับแก้เป็น “เงินตอนแทนรายเดือนตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ในอัตราตามที่ สวธ.ประกาศกำหนด” เพื่อการกำหนดเงินตอบแทนศิลปินแห่งชาติตามงบประมาณที่ได้รับในแต่ละปี และให้มีความเหมาะสมตามสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจและสังคมในช่วงเวลาที่พิจาณานั้น เพราะที่ผ่านมา การขึ้นเงินเดือน หรือว่าเพิ่มเงินช่วยเหลือให้ศิลปินแห่งชาติไม่สามารถทำได้ เพราะกฎกระทรวงกำหนดไว้ชัดเจน เพื่อเปิดกว้างเรื่องการขึ้นเงินเดือน และเพิ่มเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสมของงบประมาณที่ สวธ.ได้รับจัดสรรมาในแต่ละปี
วันนี้ (6 มิ.ย.) นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ว่า ขณะนี้กฎกระทรวงประกอบ พ.ร.บ.วัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2553 ในส่วนของกฎกระทรวงกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2555 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที และยกเลิกกฎกระทรวงฉบับเดิม ดังนั้น การคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2555 จะนำกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวมาใช้ ซึ่งในกฎกระทรวงฉบับนี้ ได้แก้ไขข้อความบางส่วนใหม่ อาทิ แก้ไขความหมายของบทนิยามคำว่า “เงินตอบแทนประจำตำแหน่ง” เป็น “เงินค่าตอบแทน”
นางปริศนา กล่าวต่อว่า รวมทั้งข้อ 10 ของกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว ได้ปรับแก้ข้อความจากเดิม “เพื่อพิจารณาประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาละ 3 คน แต่ไม่เกิน 9 คน ในแต่ละปี” สวธ.ปรับแก้และตัดข้อความ “...สาขาละสามคนแต่ไม่เกิน 9 คนในแต่ละปี” ออก เนื่องจากการพิจารณาศิลปินแห่งชาติจะพิจารณาหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้ได้รับเสนอเป็นศิลปินแห่งชาติเป็นหลัก
อย่างเช่น การคัดเลือกศิลปินแห่งชาติในปี 2555 อาจจะมีศิลปินที่ได้รับการยกย่องรวมทุกสาขาแล้วเกิน 9 คน หรืออาจจะน้อยกว่า 9 คนก็ได้ เนื่องจากที่ผ่านมา มีการกำหนดจำนวนศิลปินแห่งชาติไว้ตายตัวเกินไป บางปีมีศิลปินที่มีคุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ ดังนั้น เป็นเรื่องยากที่จะสรรหาให้ครบทั้ง 9 คน ดังนั้น จึงแก้ไขกฎกระทรวงให้เปิดกว้างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจำนวนศิลปินแห่งชาติในแต่ละปี ต้องอยู่ภายใต้ปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล ที่สำคัญ ต้องยึดคุณสมบัติของศิลปินเป็นสำคัญด้วย
นางปริศนา กล่าวว่า ในข้อ 12(1) จากเดิม “เงินตอบแทนเดือนละสองหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่” ได้ปรับแก้เป็น “เงินตอนแทนรายเดือนตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ในอัตราตามที่ สวธ.ประกาศกำหนด” เพื่อการกำหนดเงินตอบแทนศิลปินแห่งชาติตามงบประมาณที่ได้รับในแต่ละปี และให้มีความเหมาะสมตามสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจและสังคมในช่วงเวลาที่พิจาณานั้น เพราะที่ผ่านมา การขึ้นเงินเดือน หรือว่าเพิ่มเงินช่วยเหลือให้ศิลปินแห่งชาติไม่สามารถทำได้ เพราะกฎกระทรวงกำหนดไว้ชัดเจน เพื่อเปิดกว้างเรื่องการขึ้นเงินเดือน และเพิ่มเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสมของงบประมาณที่ สวธ.ได้รับจัดสรรมาในแต่ละปี
