“ชินภัทร” ยันแจกแท็บเล็ต ป.1 ไม่เร็วเกินไป อ้างดูงานที่ชิคาโก พบ เด็ก ป.1 ก็ใช้ I-Pad เรียน และได้ผลดี ลั่นไทยมาถูกทางแล้ว แย้ม สพฐ.จะหาโปรแกรมประมวลผลหลังเรียนเอาอย่างบ้าง
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ได้ไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนด้วย I-Pad ที่โรงเรียนประถมศึกษาในเมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งแจกให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยดำเนินการมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งทางโรงเรียนจะใช้ I-Pad เป็นเครื่องมือช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนและพัฒนาทักษะทางด้านภาษา โดยเฉพาะการฟัง การคิด การอ่าน การเขียนซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในระดับต้นๆ ที่ต้องปลูกฝังในผู้เรียนวัยนี้ ทั้งยังช่วยให้เด็กนักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ รู้จักสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองมีการนำเสนอความเห็น และเกิดความร่วมมือ และได้แลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างนักเรียนและนักเรียน นอกจากนี้ การเรียนรู้นั้นไม่ได้มีเพียงแต่ในห้องเรียนเท่านั้น แต่เมื่อเวลาออกไปนอนห้องเรียนนักเรียนยังสามารถนำเครื่องไปใช้เพื่อเก็บข้อมูลในสิ่งที่พบเจอได้ด้วย ทำให้เด็กรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้
นอกจากนี้ ยังพบว่า ได้มีการนำ I-Pad ไปใช้ในการเรียนรู้กับเด็กที่มีปัญหาทางสติปัญญา เด็กแอลดี หรือแม้แต่เด็กพิการ ก็ทำให้เด็กมีพัฒนาการเรียนรู้มากขึ้น จุดแข็งของเขา คือ มีโปรแกรมประมวลผลการเรียนรู้หลังการเรียนทันที ซึ่งทำให้ครูนั้นสามารถรู้และประเมินผลได้ทันทีว่าเด็กในชั้นเรียนคนใดบ้างที่รู้และไม่รู้เรื่องในการเรียนชั่วโมงนั้นๆ และสามารถหาวิธีการแก้ไขได้ตรงจุดทำให้เด็กไม่ถูกทอดทิ้ง
“แม้ว่าที่โรงเรียนประถมในชิคาโก จะไม่ได้ให้เด็กนำ I-Pad กลับบ้าน แต่ก็มีการสอนให้เด็กรู้จักรักษาของ สอนวิธีการถือ และการดูแลของซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ดี และ สพฐ.จะนำมาปรับใช้ด้วย และอย่างน้อยๆ ทำให้เราได้รู้ว่าการแจกแท็บเล็ตตอนนี้ก็มาถูกทาง เพราะเขาก็เริ่มในชั้นป.1 ดังนั้น เราเริ่ม ป.1 เหมือนกันก็ไม่เร็วเกินไป และยังทำให้ได้รู้ว่าแนวทางที่เราพัฒนาโรงเรียนสู่มาตรฐานสากลที่พัฒนาคุณภาพมัธยมศึกษาตอนปลายที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนรู้จักสร้างองค์ความรู้ รู้จักตั้งคำถาม มีการแลกเปลี่ยนสื่อสารเป็นสมรรถนะที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากลและต่อไปจะวางรากฐานให้โรงเรียนสู่มาตรฐานสากลเหล่านี้เชื่อมโยงมาสู่ระดับประถมศึกษาด้วย” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการประมวลผลหลังการเรียนนั้น เนื่องจากระบบในแท็บเล็ตที่เราแจก ป.1 ไม่ได้วางระบบไว้แต่ สพฐ.จะพยายามหาวิธีการ หรือโปรแกรมที่จะมาพัฒนาเพื่อช่วยครูต่อไป ทั้งนี้ ส่วนข้อกังวลในเรื่องระบบ Wi-Fi ที่ยังขยายไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่นั้น ตนได้ฟังข้อเสนอแนะ รศ.ยืน ภู่วรรณ รองอธิการบดี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และที่ปรึกษาสำนักบริการคอมพิวเตอร์ ที่ระบุว่า เราไม่จำเป็นต้องนำเรื่องของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือ ระบบ Wi-Fi มาเป็นเงื่อนไขในการไปสู่ความสำเร็จ เพราะฉะนั้น สพฐ.จะนำแนวคิดของท่านไปศึกษาต่อไป
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ได้ไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนด้วย I-Pad ที่โรงเรียนประถมศึกษาในเมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งแจกให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยดำเนินการมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งทางโรงเรียนจะใช้ I-Pad เป็นเครื่องมือช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนและพัฒนาทักษะทางด้านภาษา โดยเฉพาะการฟัง การคิด การอ่าน การเขียนซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในระดับต้นๆ ที่ต้องปลูกฝังในผู้เรียนวัยนี้ ทั้งยังช่วยให้เด็กนักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ รู้จักสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองมีการนำเสนอความเห็น และเกิดความร่วมมือ และได้แลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างนักเรียนและนักเรียน นอกจากนี้ การเรียนรู้นั้นไม่ได้มีเพียงแต่ในห้องเรียนเท่านั้น แต่เมื่อเวลาออกไปนอนห้องเรียนนักเรียนยังสามารถนำเครื่องไปใช้เพื่อเก็บข้อมูลในสิ่งที่พบเจอได้ด้วย ทำให้เด็กรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้
นอกจากนี้ ยังพบว่า ได้มีการนำ I-Pad ไปใช้ในการเรียนรู้กับเด็กที่มีปัญหาทางสติปัญญา เด็กแอลดี หรือแม้แต่เด็กพิการ ก็ทำให้เด็กมีพัฒนาการเรียนรู้มากขึ้น จุดแข็งของเขา คือ มีโปรแกรมประมวลผลการเรียนรู้หลังการเรียนทันที ซึ่งทำให้ครูนั้นสามารถรู้และประเมินผลได้ทันทีว่าเด็กในชั้นเรียนคนใดบ้างที่รู้และไม่รู้เรื่องในการเรียนชั่วโมงนั้นๆ และสามารถหาวิธีการแก้ไขได้ตรงจุดทำให้เด็กไม่ถูกทอดทิ้ง
“แม้ว่าที่โรงเรียนประถมในชิคาโก จะไม่ได้ให้เด็กนำ I-Pad กลับบ้าน แต่ก็มีการสอนให้เด็กรู้จักรักษาของ สอนวิธีการถือ และการดูแลของซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ดี และ สพฐ.จะนำมาปรับใช้ด้วย และอย่างน้อยๆ ทำให้เราได้รู้ว่าการแจกแท็บเล็ตตอนนี้ก็มาถูกทาง เพราะเขาก็เริ่มในชั้นป.1 ดังนั้น เราเริ่ม ป.1 เหมือนกันก็ไม่เร็วเกินไป และยังทำให้ได้รู้ว่าแนวทางที่เราพัฒนาโรงเรียนสู่มาตรฐานสากลที่พัฒนาคุณภาพมัธยมศึกษาตอนปลายที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนรู้จักสร้างองค์ความรู้ รู้จักตั้งคำถาม มีการแลกเปลี่ยนสื่อสารเป็นสมรรถนะที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากลและต่อไปจะวางรากฐานให้โรงเรียนสู่มาตรฐานสากลเหล่านี้เชื่อมโยงมาสู่ระดับประถมศึกษาด้วย” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการประมวลผลหลังการเรียนนั้น เนื่องจากระบบในแท็บเล็ตที่เราแจก ป.1 ไม่ได้วางระบบไว้แต่ สพฐ.จะพยายามหาวิธีการ หรือโปรแกรมที่จะมาพัฒนาเพื่อช่วยครูต่อไป ทั้งนี้ ส่วนข้อกังวลในเรื่องระบบ Wi-Fi ที่ยังขยายไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่นั้น ตนได้ฟังข้อเสนอแนะ รศ.ยืน ภู่วรรณ รองอธิการบดี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และที่ปรึกษาสำนักบริการคอมพิวเตอร์ ที่ระบุว่า เราไม่จำเป็นต้องนำเรื่องของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือ ระบบ Wi-Fi มาเป็นเงื่อนไขในการไปสู่ความสำเร็จ เพราะฉะนั้น สพฐ.จะนำแนวคิดของท่านไปศึกษาต่อไป
