สธ.ส่งหน่วยแพทย์ดูอาการชาวบ้านคลองหัวลำภู หลังร้องเรียนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคผิวหนัง เพราะสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่ง ประเมินผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ น้ำเสีย และกลิ่น
จากกรณีที่ชาวบ้านคลองหัวลำภู ร้องเรียนข่าว 3 มิติ เมื่อช่วงดึกคืนที่ผ่านมา (27 พ.ค.) ว่าอาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงสูดกลิ่นเหม็นคล้ายถ่านหิน และพบมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองด้วย โดยขณะนี้มีชาวบ้านจำนวน 20 ราย ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และมีรายงานเสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย นอกจากนี้ ยังพบผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคผิวหนัง มีอาการผื่นคัน ต้องการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหานั้น
วันนี้ (28 พ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังได้รับทราบข่าว ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้ นายแพทย์ ธวัชชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขประจำพื้นที่สมุทรปราการ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วยจากผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งตรวจสอบคุณภาพอากาศ น้ำเสีย รวมทั้งกลิ่น เป็นการด่วน เพื่อวางแผนแก้ไขร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นการด่วน
นายแพทย์ ธวัชชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันนี้ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่ ที่คลองหัวลำภู จำนวน 2 ทีม ทีมแรกประกอบด้วยทีมแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลสมุทรปราการ ไปตรวจสภาพปัญหาและสาเหตุการป่วยของผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตที่อยู่ในชุมชน รวมทั้งโรคทางผิวหนังด้วย ในขั้นต้นนี้จะประเมินว่า มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ หรือไม่ หากพบว่าผิดปกติจะวางแผนช่วยเหลือขั้นต่อไป ส่วนทีมที่ 2 เป็นทีมจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการที่ดูแลด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ดูแลความปลอดภัยสิ่งแวดล้อม ไปตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้ชุมชนดังกล่าว เพื่อประเมินการปนเปื้อนมลพิษทางอากาศ น้ำเสีย รวมทั้งกลิ่นเหม็น โดยละเอียด
นายแพทย์ ธวัชชัย กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่า โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มีแนวโน้มการเจ็บป่วยในภาพรวมทั่วประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นผลพวงเกิดตามมาจากโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน โดยผลการตรวจคัดกรองหาผู้ป่วยของกระทรวงสารณสุข พบเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10-12 ของประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งจังหวัดสมุทรปราการ เป็นพื้นที่ที่มีจำนวนประชากรมาก โดยมีประชากรตามทะเบียนราษฎรประมาณ 1.4 ล้านคน และมีประชาชนที่เข้าไปใช้แรงงานในพื้นที่อีกประมาณ 1 ล้านคน รวมทั้งหมดประมาณ 2.4 ล้านคน ใกล้เคียงกับจังหวัดนครราชสีมา แต่พื้นที่จังหวัดเล็กกว่ามาก จึงมีโอกาสพบชุมชนแออัดได้มากกว่าที่อื่น จะต้องมีการประเมินสภาพปัญหาสุขภาพว่ามีความผิดปกติแตกต่างจากที่อื่นๆ มากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ ในเรื่องของการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต ขณะนี้โรงพยาบาลสมุทรปราการ รวมทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปในจังหวัดอื่นๆ ได้เปิดหน่วยดูแลผู้ป่วยโรคนี้เป็นการเฉพาะแล้ว และเปิดบริการทางด่วนฉุกเฉินแก่ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยและมีสัญญานจะป่วยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เช่นมีอาการเวียนศีรษะ ชาที่ใบหน้า หรือแขนขาครึ่งซีกอ่อนแรง เพื่อให้การดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยการให้ยาละลายลิ่มเลือดในรายที่ตรวจพบเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบตัน เพื่อลดและป้องกันปัญหาความพิการให้ได้มากที่สุด
จากกรณีที่ชาวบ้านคลองหัวลำภู ร้องเรียนข่าว 3 มิติ เมื่อช่วงดึกคืนที่ผ่านมา (27 พ.ค.) ว่าอาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงสูดกลิ่นเหม็นคล้ายถ่านหิน และพบมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองด้วย โดยขณะนี้มีชาวบ้านจำนวน 20 ราย ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และมีรายงานเสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย นอกจากนี้ ยังพบผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคผิวหนัง มีอาการผื่นคัน ต้องการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหานั้น
วันนี้ (28 พ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังได้รับทราบข่าว ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้ นายแพทย์ ธวัชชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขประจำพื้นที่สมุทรปราการ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วยจากผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งตรวจสอบคุณภาพอากาศ น้ำเสีย รวมทั้งกลิ่น เป็นการด่วน เพื่อวางแผนแก้ไขร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นการด่วน
นายแพทย์ ธวัชชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันนี้ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่ ที่คลองหัวลำภู จำนวน 2 ทีม ทีมแรกประกอบด้วยทีมแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลสมุทรปราการ ไปตรวจสภาพปัญหาและสาเหตุการป่วยของผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตที่อยู่ในชุมชน รวมทั้งโรคทางผิวหนังด้วย ในขั้นต้นนี้จะประเมินว่า มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ หรือไม่ หากพบว่าผิดปกติจะวางแผนช่วยเหลือขั้นต่อไป ส่วนทีมที่ 2 เป็นทีมจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการที่ดูแลด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ดูแลความปลอดภัยสิ่งแวดล้อม ไปตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้ชุมชนดังกล่าว เพื่อประเมินการปนเปื้อนมลพิษทางอากาศ น้ำเสีย รวมทั้งกลิ่นเหม็น โดยละเอียด
นายแพทย์ ธวัชชัย กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่า โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มีแนวโน้มการเจ็บป่วยในภาพรวมทั่วประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นผลพวงเกิดตามมาจากโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน โดยผลการตรวจคัดกรองหาผู้ป่วยของกระทรวงสารณสุข พบเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10-12 ของประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งจังหวัดสมุทรปราการ เป็นพื้นที่ที่มีจำนวนประชากรมาก โดยมีประชากรตามทะเบียนราษฎรประมาณ 1.4 ล้านคน และมีประชาชนที่เข้าไปใช้แรงงานในพื้นที่อีกประมาณ 1 ล้านคน รวมทั้งหมดประมาณ 2.4 ล้านคน ใกล้เคียงกับจังหวัดนครราชสีมา แต่พื้นที่จังหวัดเล็กกว่ามาก จึงมีโอกาสพบชุมชนแออัดได้มากกว่าที่อื่น จะต้องมีการประเมินสภาพปัญหาสุขภาพว่ามีความผิดปกติแตกต่างจากที่อื่นๆ มากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ ในเรื่องของการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต ขณะนี้โรงพยาบาลสมุทรปราการ รวมทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปในจังหวัดอื่นๆ ได้เปิดหน่วยดูแลผู้ป่วยโรคนี้เป็นการเฉพาะแล้ว และเปิดบริการทางด่วนฉุกเฉินแก่ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยและมีสัญญานจะป่วยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เช่นมีอาการเวียนศีรษะ ชาที่ใบหน้า หรือแขนขาครึ่งซีกอ่อนแรง เพื่อให้การดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยการให้ยาละลายลิ่มเลือดในรายที่ตรวจพบเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบตัน เพื่อลดและป้องกันปัญหาความพิการให้ได้มากที่สุด