พระเทพฯ เสด็จฯเปิดงานสัปดาห์หนังสือ ครั้งที่ 40 ด้าน “สุชาติ” ฟุ้งจะทำคูปองให้เด็กนำไปซื้อหนังสือตามที่ต้องการเอง ไฮไลต์สำคัญในปีนี้ คือ นิทรรศการเทพรัตน์มณีสาร ร้อยตระการแสงแห่งศาสตร์
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 40 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 10 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555 ภายใต้แนวคิด “การอ่านคือ การพัฒนาชีวิต” (Read for Life) พร้อมกันนี้ ได้พระราชทานวโรกาสให้ ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานการจัดงาน, ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เฝ้ารับเสด็จฯ ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำ พ.ศ.2555
พร้อมกันนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่ง ว่า “ขอชื่นชมผู้จัดงาน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้ร่วมกันพยายามสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต และได้พยายามนำสื่อต่างๆ มาช่วยในการเรียนรู้ เพื่อสร้างเสริมสติปัญญา ซึ่งมีประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมกันนี้ ยังสร้างจิตสำนึกให้แก่สังคมไทย นับเป็นความปรารถนาดีต่อเยาวชนและคนทั่วไป ทั้งนี้สังคมไทยนั้นทุกๆ คน มีส่วนเป็นเจ้าของจึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องช่วยกันจรรโลงสังคมของเราทุกคนให้พัฒนาไปในทิศทางที่เหมาะสมอย่างมั่นคงและถาวร”
ด้าน ศ.ดร.สุชาติ กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่นักเรียน และเยาวชนไทยนั้น จะได้มีโอกาสมาเลือกหาหนังสือที่หลากหลาย เพราะมีสำนักพิมพ์จำนวนมากกว่า 400 สำนักพิมพ์ มาร่วมในงานครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ในหลายสำนักพิมพ์ก็มีการพัฒนาหนังสือจากรูปเล่มก็เป็นรูปแบบดิจิตอลมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ควรส่งเสริมการอ่านมากยิ่งขึ้น และคิดว่า กำลังจะไปศึกษาดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่เก็บภาษีของหนังสือนำเข้า รวมถึงจะไปดูเรื่องงบประมาณบางส่วนของกระทรวงเพื่อนำมาจัดสรรในรูปแบบคูปองเพื่อแจกให้เด็กไปเลือกซื้อหนังสือตามที่เด็กต้องการเพราะบางครั้งหนังสือที่เราบริจาค หรือนำไปมอบให้เด็กอาจจะยังไม่ใช่แบบที่เขาต้องการ ส่วนจะให้คูปองละเท่านั้นขอไปศึกษารายละเอียดก่อน
ขณะที่ ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวว่า งานสัปดาห์หนังสือปีนี้นั้น มีสำนักพิมพ์ไทยตอบรับเข้าร่วมจำนวน 421 สำนักพิมพ์ รวมเป็น 918 บูธ และยังมีสำนักพิมพ์จากต่างชาติมาร่วมกว่า 20 บูธ เช่น เกาหลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิหร่าน เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการน่าสนใจ อาทิ นิทรรศการเทพรัตน์มณีสาร ร้อยตระการแสงแห่งศาสตร์ ซึ่งแสดงหนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมทั้งพระราชนิพนธ์แปลหนังสือจีน เล่มใหม่เรื่อง “หมู่บ้านเล็ก ตระกูลเป้า”, นิทรรศการหนังสืออัญมณีแห่งอาเซียน จัดแสดงหนังสือซึ่งคัดสรรจากประเทศอาเซียน 8 ประเทศ เพื่อแบ่งปันความรู้ความเข้าใจในหมู่ประเทศสมาชิก และยังมีนิทรรศการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ครั้งแรกในไทย แสดง e-book ของสำนักพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือในรูปแบบร้านค้าออนไลน์ รวมถึงนิทรรศการกรุงเทพเมืองหนังสือโลก โดยกรุงเทพมหานคร เนื่องจาก กทม.ได้รับเลือกจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองหนังสือโลกใน พ.ศ.2556
ด้าน นายวรพันธ์ กล่าวว่า สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังได้ทำโครงการทอฝันปันหนังสือให้น้อง จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 มอบบัตรกำนันให้เด็กด้อยโอกาสให้เด็ก 400 บาท เพื่อนำไปเลือกซื้อหนังสือวันที่ 4 เมษายน นอกจากนี้ สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดโครงการชุบชีวิตห้องสมุดคืนความสุขให้น้องๆ ในวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อมอบเงินให้แก่โรงเรียนที่ประสบอุทกภัยกว่า 100 โรงเรียน นำไปเลือกซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 40 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 10 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555 ภายใต้แนวคิด “การอ่านคือ การพัฒนาชีวิต” (Read for Life) พร้อมกันนี้ ได้พระราชทานวโรกาสให้ ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานการจัดงาน, ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เฝ้ารับเสด็จฯ ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำ พ.ศ.2555
พร้อมกันนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่ง ว่า “ขอชื่นชมผู้จัดงาน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้ร่วมกันพยายามสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต และได้พยายามนำสื่อต่างๆ มาช่วยในการเรียนรู้ เพื่อสร้างเสริมสติปัญญา ซึ่งมีประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมกันนี้ ยังสร้างจิตสำนึกให้แก่สังคมไทย นับเป็นความปรารถนาดีต่อเยาวชนและคนทั่วไป ทั้งนี้สังคมไทยนั้นทุกๆ คน มีส่วนเป็นเจ้าของจึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องช่วยกันจรรโลงสังคมของเราทุกคนให้พัฒนาไปในทิศทางที่เหมาะสมอย่างมั่นคงและถาวร”
ด้าน ศ.ดร.สุชาติ กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่นักเรียน และเยาวชนไทยนั้น จะได้มีโอกาสมาเลือกหาหนังสือที่หลากหลาย เพราะมีสำนักพิมพ์จำนวนมากกว่า 400 สำนักพิมพ์ มาร่วมในงานครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ในหลายสำนักพิมพ์ก็มีการพัฒนาหนังสือจากรูปเล่มก็เป็นรูปแบบดิจิตอลมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ควรส่งเสริมการอ่านมากยิ่งขึ้น และคิดว่า กำลังจะไปศึกษาดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่เก็บภาษีของหนังสือนำเข้า รวมถึงจะไปดูเรื่องงบประมาณบางส่วนของกระทรวงเพื่อนำมาจัดสรรในรูปแบบคูปองเพื่อแจกให้เด็กไปเลือกซื้อหนังสือตามที่เด็กต้องการเพราะบางครั้งหนังสือที่เราบริจาค หรือนำไปมอบให้เด็กอาจจะยังไม่ใช่แบบที่เขาต้องการ ส่วนจะให้คูปองละเท่านั้นขอไปศึกษารายละเอียดก่อน
ขณะที่ ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวว่า งานสัปดาห์หนังสือปีนี้นั้น มีสำนักพิมพ์ไทยตอบรับเข้าร่วมจำนวน 421 สำนักพิมพ์ รวมเป็น 918 บูธ และยังมีสำนักพิมพ์จากต่างชาติมาร่วมกว่า 20 บูธ เช่น เกาหลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิหร่าน เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการน่าสนใจ อาทิ นิทรรศการเทพรัตน์มณีสาร ร้อยตระการแสงแห่งศาสตร์ ซึ่งแสดงหนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมทั้งพระราชนิพนธ์แปลหนังสือจีน เล่มใหม่เรื่อง “หมู่บ้านเล็ก ตระกูลเป้า”, นิทรรศการหนังสืออัญมณีแห่งอาเซียน จัดแสดงหนังสือซึ่งคัดสรรจากประเทศอาเซียน 8 ประเทศ เพื่อแบ่งปันความรู้ความเข้าใจในหมู่ประเทศสมาชิก และยังมีนิทรรศการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ครั้งแรกในไทย แสดง e-book ของสำนักพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือในรูปแบบร้านค้าออนไลน์ รวมถึงนิทรรศการกรุงเทพเมืองหนังสือโลก โดยกรุงเทพมหานคร เนื่องจาก กทม.ได้รับเลือกจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองหนังสือโลกใน พ.ศ.2556
ด้าน นายวรพันธ์ กล่าวว่า สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังได้ทำโครงการทอฝันปันหนังสือให้น้อง จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 มอบบัตรกำนันให้เด็กด้อยโอกาสให้เด็ก 400 บาท เพื่อนำไปเลือกซื้อหนังสือวันที่ 4 เมษายน นอกจากนี้ สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดโครงการชุบชีวิตห้องสมุดคืนความสุขให้น้องๆ ในวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อมอบเงินให้แก่โรงเรียนที่ประสบอุทกภัยกว่า 100 โรงเรียน นำไปเลือกซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
