ASTVผู้จัดการรายวัน - สธ.เต้นสอบวินัยกรณี ยาแก้หวัดซูโดฯ ส่วนภูมิภาคผุดอีกที่ รพ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ ตำรวจตั้งข้อสงสัยเภสัชกร
วานนี้ (22 มี.ค.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ว่า จากรายงานที่เข้ามาส่วนกลาง ทั้งของ รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และ รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ สธ.ได้มีคำสั่งให้ผู้ที่ถูกสอบสวนเข้ามาทำงานส่วนกลาง เพื่อง่ายต่อการสอบสวนทางวินัย และล่าสุด ในวันที่ 22 มีนาคม ได้มีคำสั่งให้เภสัชกรที่ รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ที่กระทำผิดนั้นเข้ามาที่ส่วนกลางเช่นกัน ขณะที่ รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ คาดว่า จะได้รับรายงานการสอบสวนจากทางจังหวัดในวันที่ 23 มี.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอเคยออกมาระบุว่า มี รพ.ที่เข้าข่ายเบิกจ่ายยาซูโดอีเฟดรีนมากเกินกว่า 20 แห่ง นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีเข้าข่ายที่ต้องตรวจสอบประมาณ 10 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีการเบิกจ่ายสูงกว่าแสนเม็ด แต่ยังไม่ได้ชี้ชัดว่าทั้งหมดผิดจริง ต้องขอเวลาตรวจสอบก่อน โดยได้มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว คาดว่า 2 สัปดาห์ทราบผล แต่ขณะนี้มีการสั่งให้ระงับการใช้ยาดังกล่าวไปแล้ว ส่วน รพ.เอกชน ได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) เข้าไปตรวจสอบความชัดเจนแล้ว
วานนี้ (22 มี.ค.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ว่า จากรายงานที่เข้ามาส่วนกลาง ทั้งของ รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และ รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ สธ.ได้มีคำสั่งให้ผู้ที่ถูกสอบสวนเข้ามาทำงานส่วนกลาง เพื่อง่ายต่อการสอบสวนทางวินัย และล่าสุด ในวันที่ 22 มีนาคม ได้มีคำสั่งให้เภสัชกรที่ รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ที่กระทำผิดนั้นเข้ามาที่ส่วนกลางเช่นกัน ขณะที่ รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ คาดว่า จะได้รับรายงานการสอบสวนจากทางจังหวัดในวันที่ 23 มี.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอเคยออกมาระบุว่า มี รพ.ที่เข้าข่ายเบิกจ่ายยาซูโดอีเฟดรีนมากเกินกว่า 20 แห่ง นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีเข้าข่ายที่ต้องตรวจสอบประมาณ 10 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีการเบิกจ่ายสูงกว่าแสนเม็ด แต่ยังไม่ได้ชี้ชัดว่าทั้งหมดผิดจริง ต้องขอเวลาตรวจสอบก่อน โดยได้มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว คาดว่า 2 สัปดาห์ทราบผล แต่ขณะนี้มีการสั่งให้ระงับการใช้ยาดังกล่าวไปแล้ว ส่วน รพ.เอกชน ได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) เข้าไปตรวจสอบความชัดเจนแล้ว