“เผดิมชัย” เผย ถูกโทรศัพท์ลึกลับข่มขู่ ยอมรับใช้อารมณ์รับม็อบแรงงานทั้งที่ตั้งใจช่วยแก้ปัญหา ยืนยันไม่หนักใจ พร้อมทำงานต่อไป
วันนี้ (21 มี.ค.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับโทรศัพท์ไม่ทราบเลขหมาย โทร.มาต่อว่า โดยใช้ถ้อยคำและน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะมองว่าการที่ก้าวมาอยู่ในตำแหน่งนี้ต้องมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ เนื่องจากช่วงนี้ตนมีนโยบายการทำงานที่เด็ดขาดและอาจจะสร้างผลกระทบกับใครหลายคน
รมว.แรงงาน กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากตัดสินว่าเป็นบุคคลที่เสียประโยชน์จากกลุ่มใด เพราะช่วงนี้ตนก็มีการทำงานที่หลากหลาย ทั้งการแก้ปัญหาเรื่องการไปเรียกเก็บค่าบริการจัดส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ เช่น กรณีแรงงานไทยที่ไปทำงานอิสราเอล นโยบายการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท และปัญหาการชุมนุมของผู้ใช้แรงงานเพื่อมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งตนยอมรับว่าอาจจะรู้สึกไม่พอใจบ้างที่แรงงานมารวมตัวปิดถนน เนื่องจากอยากให้มีการเจรจาแบบสันติโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม กรณีโทรศัพท์ลึกลับนั้น ตนก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และจะเดินหน้าทำงาน เพื่อผู้ใช้แรงงานให้ได้รับการดูแลที่ดีต่อไป
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีโทรศัพท์ลึกลับ ไม่โชว์เบอร์โทร.เข้ามาหาผม เขาถามผมว่า คุณแน่นักเหรอ แต่ไม่ได้ถึงกับขนาดมาขู่ฆ่าอะไรกัน ผมก็ตอบกลับเขาไปว่า แน่ไม่แน่ไม่รู้ แต่ถ้าคุณแน่ก็บอกเบอร์มา ผมไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ที่ผ่านมา ผมตั้งใจทำงาน และแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ค่าจ้าง 300 บาท การเรียกเก็บค่าหัวคิวแรงงานไทยที่ไปทำงานอิสราเอล การพบกับม็อบแรงงานที่มาขอให้ช่วยแก้ปัญหาถูกเลิกจ้าง ไม่ได้เงินชดเชย อย่างกรณีการพบกับม็อบแรงงาน ผมเบรกแตกควบคุมอารมณ์ไม่ได้เพราะบางวันประชุม 2-3 ครั้ง เข้ากระทรวงแรงงาน ก็อยากมานั่งทำงานต่อ แต่มาเจอม็อบแรงงาน และมีการปิดถนนทำให้คนอื่นๆ เดือดร้อน จริงๆ แล้วผมไปเจอม็อบแรงงานเพื่อต้องการรับฟังและช่วยแก้ปัญหา แต่กลายเป็นอีกเรื่องไป ผมก็ไม่ดีไปแสดงอารมณ์กับพวกเขาทั้งที่มาขอความช่วยเหลือ” นายเผดิมชัย กล่าว
วันนี้ (21 มี.ค.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับโทรศัพท์ไม่ทราบเลขหมาย โทร.มาต่อว่า โดยใช้ถ้อยคำและน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะมองว่าการที่ก้าวมาอยู่ในตำแหน่งนี้ต้องมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ เนื่องจากช่วงนี้ตนมีนโยบายการทำงานที่เด็ดขาดและอาจจะสร้างผลกระทบกับใครหลายคน
รมว.แรงงาน กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากตัดสินว่าเป็นบุคคลที่เสียประโยชน์จากกลุ่มใด เพราะช่วงนี้ตนก็มีการทำงานที่หลากหลาย ทั้งการแก้ปัญหาเรื่องการไปเรียกเก็บค่าบริการจัดส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ เช่น กรณีแรงงานไทยที่ไปทำงานอิสราเอล นโยบายการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท และปัญหาการชุมนุมของผู้ใช้แรงงานเพื่อมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งตนยอมรับว่าอาจจะรู้สึกไม่พอใจบ้างที่แรงงานมารวมตัวปิดถนน เนื่องจากอยากให้มีการเจรจาแบบสันติโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม กรณีโทรศัพท์ลึกลับนั้น ตนก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และจะเดินหน้าทำงาน เพื่อผู้ใช้แรงงานให้ได้รับการดูแลที่ดีต่อไป
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีโทรศัพท์ลึกลับ ไม่โชว์เบอร์โทร.เข้ามาหาผม เขาถามผมว่า คุณแน่นักเหรอ แต่ไม่ได้ถึงกับขนาดมาขู่ฆ่าอะไรกัน ผมก็ตอบกลับเขาไปว่า แน่ไม่แน่ไม่รู้ แต่ถ้าคุณแน่ก็บอกเบอร์มา ผมไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ที่ผ่านมา ผมตั้งใจทำงาน และแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ค่าจ้าง 300 บาท การเรียกเก็บค่าหัวคิวแรงงานไทยที่ไปทำงานอิสราเอล การพบกับม็อบแรงงานที่มาขอให้ช่วยแก้ปัญหาถูกเลิกจ้าง ไม่ได้เงินชดเชย อย่างกรณีการพบกับม็อบแรงงาน ผมเบรกแตกควบคุมอารมณ์ไม่ได้เพราะบางวันประชุม 2-3 ครั้ง เข้ากระทรวงแรงงาน ก็อยากมานั่งทำงานต่อ แต่มาเจอม็อบแรงงาน และมีการปิดถนนทำให้คนอื่นๆ เดือดร้อน จริงๆ แล้วผมไปเจอม็อบแรงงานเพื่อต้องการรับฟังและช่วยแก้ปัญหา แต่กลายเป็นอีกเรื่องไป ผมก็ไม่ดีไปแสดงอารมณ์กับพวกเขาทั้งที่มาขอความช่วยเหลือ” นายเผดิมชัย กล่าว
