มติกรรมการสรรหาจุฬาฯ ให้ หมอภิรมย์ โชว์วิสัยทัศน์คนเดียวก่อน
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุธโส ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีจุฬาฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการสรรหาฯอธิการบดีต่อ โดยยึดหลักความถูกต้อง ความสง่างาม และรักษาความสามัคคี เพราะจุฬาฯไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็นที่ชุมนุมวิชาการที่ใช้หลักสุนทรีในการสนทนา ซึ่งที่ประชุมตกลงร่วมกันว่า ให้สัมภาษณ์ผู้ได้รับการสรรหาเพียงคนเดียวก่อน คือ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ขณะเดียวกัน ก็ไม่ตัดสิทธิ์อีกสองคน และหลัง นพ.ภิรมย์ ได้แสดงวิสัยทัศน์แล้วคณะกรรมการสรรหาฯ จะประชุมเพื่อมีฉันทามติร่วมกันว่าจะสัมภาษณ์อีกสองคนหรือไม่ แต่หากการแสดงวิสัยทัศน์ ของ นพ.ภิรมย์ มีคณะกรรมการสรรหาฯเพียงคนเดียวเห็นต่าง ก็คงต้องหารือร่วมกันอีกครั้งเพื่อให้ได้ฉันทามติร่วมกัน ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วเนื่องจากอธิการบดีคนปัจจุบันจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 มีนาคม
“อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้เน้นเรื่องของคะแนนเสียง เพราะหากมีการใช้คะแนนก็จะมีการไปหาเสียง แต่อยากให้เป็นเรื่องของฉันทามติซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางพระต่างกับการเมืองที่ใช้หลักประชาธิปไตยเสียงข้างมาก สำหรับการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯครั้งนี้ ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่มีเรื่องความขัดแย้ง หรือศึกษาเลือกตามกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เพียงแค่ตีความเรื่องกฎระเบียบต่างกัน”นพ.ประเวศ กล่าวและว่า ส่วนการดำเนินการสรรหานั้นไม่จำเป็นตต้อวให้ทันก่อนสภาจุฬาฯ ชุดปัจจุบันหมดสาระ จะเสนอสภาจุฬาฯชุดไหนก็ได้
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุธโส ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีจุฬาฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการสรรหาฯอธิการบดีต่อ โดยยึดหลักความถูกต้อง ความสง่างาม และรักษาความสามัคคี เพราะจุฬาฯไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็นที่ชุมนุมวิชาการที่ใช้หลักสุนทรีในการสนทนา ซึ่งที่ประชุมตกลงร่วมกันว่า ให้สัมภาษณ์ผู้ได้รับการสรรหาเพียงคนเดียวก่อน คือ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ขณะเดียวกัน ก็ไม่ตัดสิทธิ์อีกสองคน และหลัง นพ.ภิรมย์ ได้แสดงวิสัยทัศน์แล้วคณะกรรมการสรรหาฯ จะประชุมเพื่อมีฉันทามติร่วมกันว่าจะสัมภาษณ์อีกสองคนหรือไม่ แต่หากการแสดงวิสัยทัศน์ ของ นพ.ภิรมย์ มีคณะกรรมการสรรหาฯเพียงคนเดียวเห็นต่าง ก็คงต้องหารือร่วมกันอีกครั้งเพื่อให้ได้ฉันทามติร่วมกัน ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วเนื่องจากอธิการบดีคนปัจจุบันจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 มีนาคม
“อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้เน้นเรื่องของคะแนนเสียง เพราะหากมีการใช้คะแนนก็จะมีการไปหาเสียง แต่อยากให้เป็นเรื่องของฉันทามติซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางพระต่างกับการเมืองที่ใช้หลักประชาธิปไตยเสียงข้างมาก สำหรับการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯครั้งนี้ ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่มีเรื่องความขัดแย้ง หรือศึกษาเลือกตามกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เพียงแค่ตีความเรื่องกฎระเบียบต่างกัน”นพ.ประเวศ กล่าวและว่า ส่วนการดำเนินการสรรหานั้นไม่จำเป็นตต้อวให้ทันก่อนสภาจุฬาฯ ชุดปัจจุบันหมดสาระ จะเสนอสภาจุฬาฯชุดไหนก็ได้
