สพฐ. เรียกประชุม ร.ร.ที่มีการแข่งขันสูง 13-14 ก.พ.นี้ เช็กความพร้อมรับ นร.ปี 55 พร้อมขอให้สำรวจและรายงานความต้องการขยายห้องเรียน แจ้ง สพท.เพื่อเร่งประเมินและดำเนินการตามปฏิทินที่เตรียมไว้
วันนี้ (24 ม.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ในวันที่13-14 กุมภาพันธ์ นี้ จะมีการจัดประชุมชี้แจ้งนโยบายรับนักเรียนปีการศึกษา 2555 ให้กับโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง, โรงเรียนที่เปิดห้องเรียนพิเศษ และโรงเรียนที่เปิดเฉพาะระดับมัธยมปลาย ทั้งนี้ เพื่อเร่งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อการรับนักเรียนประจำปีนี้ที่จะเริ่มต้นรับสมัครประมาณต้นเดือนมีนาคมนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนเหล่านี้นั้น ตามหลักเกณฑ์ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้โรงเรียนขอขยายห้องเรียนพิเศษได้ไม่เกินปีละ 10% ของขนาดห้องเรียนพิเศษที่มีอยู่ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของห้องเรียนที่มีอยู่ทั้งหมด โดยให้อำนาจในการอนุมัติเป็นของสำนักานเขตพื้นที่การศึกษา
“ได้ขอให้โรงเรียนเร่งสำรวจความต้องการ พร้อมทั้งทำเรื่องเสนอมายังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้กรรมการประเมินความพร้อมของเขตพื้นที่การศึกษาประเมินซึ่งตามปฏิทินจะประเมินระหว่างวันที่ 1-10 ก.พ.และประกาศผล 15 ก.พ.นี้ ส่วนแนวทางการระดมทรัพยากรจากผู้ปกครองเพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนนั้น ต้องรอฟังนโยบายจาก รมว.ศธ.คนใหม่ก่อน อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้ ร.ร.เพิ่มห้องเรียนพิเศษได้ ก็เป็นการเปิดช่องให้ร.ร.ระดมทรัพยากรได้เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว เพราะห้องเรียนพิเศษมีการเก็บค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติ”เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
วันนี้ (24 ม.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ในวันที่13-14 กุมภาพันธ์ นี้ จะมีการจัดประชุมชี้แจ้งนโยบายรับนักเรียนปีการศึกษา 2555 ให้กับโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง, โรงเรียนที่เปิดห้องเรียนพิเศษ และโรงเรียนที่เปิดเฉพาะระดับมัธยมปลาย ทั้งนี้ เพื่อเร่งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อการรับนักเรียนประจำปีนี้ที่จะเริ่มต้นรับสมัครประมาณต้นเดือนมีนาคมนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนเหล่านี้นั้น ตามหลักเกณฑ์ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้โรงเรียนขอขยายห้องเรียนพิเศษได้ไม่เกินปีละ 10% ของขนาดห้องเรียนพิเศษที่มีอยู่ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของห้องเรียนที่มีอยู่ทั้งหมด โดยให้อำนาจในการอนุมัติเป็นของสำนักานเขตพื้นที่การศึกษา
“ได้ขอให้โรงเรียนเร่งสำรวจความต้องการ พร้อมทั้งทำเรื่องเสนอมายังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้กรรมการประเมินความพร้อมของเขตพื้นที่การศึกษาประเมินซึ่งตามปฏิทินจะประเมินระหว่างวันที่ 1-10 ก.พ.และประกาศผล 15 ก.พ.นี้ ส่วนแนวทางการระดมทรัพยากรจากผู้ปกครองเพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนนั้น ต้องรอฟังนโยบายจาก รมว.ศธ.คนใหม่ก่อน อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้ ร.ร.เพิ่มห้องเรียนพิเศษได้ ก็เป็นการเปิดช่องให้ร.ร.ระดมทรัพยากรได้เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว เพราะห้องเรียนพิเศษมีการเก็บค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติ”เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
