สวดมนต์ข้ามปี...นำสิ่งดีๆ สู่ชีวิตด้วยธรรมะ !!

โดย..รัชญา จันทะรัง

ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือน เชื่อว่า ทุกคนหวังให้เกิดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ซึ่งเราสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยการร่วมสวดมนต์ข้ามปี ตามโครงการสวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดีชีวิตดี ปีที่ 2 ที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมหาเถรสมาคม (มส.) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายกว่า 30 องค์กร ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสร้างเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเอง

พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายอย่างมาก ซึ่ง มส.มีมติเห็นชอบให้จัด โครงการสวดมนต์ไหว้พระเจริญจิตภาวนาเพื่อสร้างสิริมงคลแก่ชีวิตโดยสนับสนุน ให้ทุกวัดทั่วประเทศและวัดไทยในต่างประเทศกว่า 300 แห่ง ร่วมจัดกิจกรรมอานิสงส์แห่งการสวดมนต์จะช่วยทำให้ใจสงบ เกิดพลังและช่วยให้ผ่านพ้นทุกข์ในเรื่องต่างๆ ไปได้

ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี กล่าวว่า มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่าการสวดมนต์ข้ามปีจะช่วยให้จิตใจสงบ จิตจะว่างแม้จะเพียง 1 ขณะจิต ก็ดีกว่านำเวลาไปทำอย่างอื่นหลายเท่าไม่ว่าเป็นการเต้นเด้งหน้าเด้งหลัง หรือการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาซึ่งจะเป็นผลดีต่อตนเองและต่อครอบครัว และการที่มาร่วมกันสวดมนต์ไหว้พระเจริญจิตภาวนากันมากๆก็จะช่วยให้ชุมชนของ เราประเทศของเราพบแต่สิริมงคล ช่วยให้ปัญหาอาชญากรรมลดลง

“การสวดมนต์ข้ามปีครั้งนี้ถือเป็นการสร้างสิริมงคลใน 2 โอกาสคือในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 7 รอบ และในปี 2555 ยังเป็นปีพุทธชยันตีครบ 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นแทนที่จะไปเย้วๆ เคาท์ดาวน์ก็มาร่วมกันสวดมนต์ข้ามปีดีกว่า ซึ่งขณะนี้มีวัดไทยกว่า 7,000 แห่งเข้าร่วมกิจกรรมโดยจะมีการถ่ายทอดสดไปยังวัดไทย 300 กว่าแห่งทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนไทยมาร่วมกันทำเพื่อพระเจ้าอยู่หัวและศาสดาของพวกเขา”

ศ.นพ.อุดมศิลป์ ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้นำพระพุทธรูปปางห้ามพยาธิขนาดความสูง 99 ซม.ซึ่ง เป็นพระพุทธรูปประจำพระชนมวารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐาน ณ ลานพระศรีมหาโพธิ์ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงเพื่อให้ประชาชนได้เจริญจิตภาวนาอธิฐานถวายพระพร พระองค์ท่าน จากนั้นก็จะอัญเชิญให้ให้อีก 76 จังหวัดได้ร่วมอธิฐานถวายพระพรพระองค์ท่านและเมื่อครบทั้ง 77 จังหวัดก็จะอัญเชิญกลับมาเพื่อน้อมเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อไป

“ไฮไลต์จะเริ่มตอน 3 ทุ่มที่เราจะสวดมนต์ครั้งแรกอย่างพร้อมเพียงกันเพื่อถวายพระพรแด่rระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อมาเวลา 5 ทุ่มก็จะถ่ายทอดสดเพื่อที่จะส่งสัญญาณว่าให้คนไทยทั่วประเทศรู้รักสามัคคี ให้คนไทยทุกสีหันหน้าเข้าหากัน ปรองดองกันด้วยธรรมะ”

ขณะที่แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน กล่าวเพิ่มเติมว่า หวังว่าเราจะไม่สวดมนต์กันเพียงแค่ขณะจิตเดียว และไม่ว่าใครจะพยากรณ์อะไรในปี 2555 หากสติเราไม่แตกก็จะไม่มีอะไรสามารถทำลายเราได้เพราะเราสามารถใช้เสียงสวดมนต์รักษาใจ รักษาโลกใบนี้ให้สว่างไสวต่อไป

หรือแม้แต่น้องใยไหม - ด.ญ.ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ ก็บอกถึงประโยชน์ของการสวดมนต์ด้วยว่า การสวดมนต์จะช่วยให้เราสบายใจ พอสบายใจก็จะหลับสบายไม่มีใครมารบกวนโดยจะสวดนะโมตัสสะฯ และบทบูชาพระพิฆเณศวร

“นอกจากจะทำให้เรารู้สึกดีแล้วหนูก็อยากให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงหายจากอาหารประชวรและให้ให้คุณแม่ของหนูมีแต่ ความสุขคะ” น้องใยไหม ทิ้งท้าย

สำหรับโครงการสวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดีชีวิตดี ปีที่ 2 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 31 ธ.ค.2554 ณ ท้องสนามหลวง ตั้งแต่เวลา 13.00-01.00 น.จากนั้นในเช้าวันที่ 1 ม.ค. 2555 เวลา 07.00 น.กทม.จัดพิธีทำบุญตักบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 185 รูป รวมถึงได้อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร จากหอพระศาลาว่าการกทม.มาให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชาอีกด้วย