เลือกเสื้อผ้าหน้าหนาว พึงระวัง “ภูมิแพ้”

โดย...จารยา บุญมาก

ช่วงนี้แฟชั่นเสื้อผ้าหน้าหนาวดูละลานตาไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสเวตเตอร์ขนสัตว์ ไหมพรม กำมะหยี่ หรือเสื้อคลุมแบบแจ๊กเก็ต และโค้ท ที่มีทั้งผ้าสักหลาด และผ้าฝ้าย ให้ได้เลือกสวมใส่ตามใจชอบตั้งแต่ราคาย่อมเยาอย่างเสื้อผ้ามือสอง ไปจนถึงราคาแสนแพงตามแบรนด์ดัง

ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นสุดเก๋ เพียงใด หากไม่เช็กสภาพผิวกายของคุณก่อน ก็อาจต้องเสียเงินแบบไม่คุ้มค่า เพราะนอกจากสวมใส่ไม่ได้แล้ว ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับค่ารักษาอาการระคายเคืองของผิวหนัง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเช็คผิวกายให้แน่ใจก่อน แต่บ่อยครั้งที่หนุ่มสาว มักเลือกตามกระแสจนลืมนึกถึงผลกระทบของเรื่องนี้

นพ.จิโรจน์ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แนะนำว่า สำหรับการเลือกซื้อเสื้อผ้าในฤดูหนาวนั้นต้องพึงระวังใน 2 ส่วน คือ 1.หากนิยมซื้อเสื้อผ้ามือสองต้องพึงระวัง เชื้อรา เห็บ เหลือบ ไร หิด เหา โลน โดยเฉพาะในเสื้อขนสัตว์และเสื้อไหมพรม ซึ่งจะมีสัตว์อันตรายต่างๆ ซ่อนตัวอยู่มากมาย เนื่องจากเสื้อผ้าที่วางขายนั้นมักเก็บในกล่อง หรือหีบที่มิดชิด อาจมีความชื้นสะสม ซึ่งสัตว์กลุ่มดังกล่าวมักจะซ่อนตัวตามใยเสื้อผ้าทำให้เกิดเป็นผื่นคัน แดง และเกิดแผลอักเสบ

นอกจากนี้ ยังเสี่ยงกับการติดเชื้อรา ซึ่งมักเกิดเป็นกลากวงเดือน ขยายวงเป็นขอบ และมีอาการลอกของผิวร่วมด้วย หรือในบางคนผิวหนังจะเป็นขุยตามแต่ว่าอาการจะรุนแรงเพียงใด ซึ่งหากเป็นอาการแพ้จากเชื้อราก็ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อที่ไม่ใช่เสตียรอยด์ แต่หากเป็นพิษจากแมลง สัตว์กัดก็ต้องใช้อาจใช้ยาแก้แพ้ ร่วมกับยาอื่น

ดังนั้น หากใครนิยมซื้อเสื้อผ้ามือสองมาใช้ นพ.จิโรจน์ แนะให้ต้มฆ่าเชื้อนานประมาณ 10 นาที แล้วค่อยนำไปซักก่อนสวมใส่หรืออาจผสมน้ำยาฆ่าเชื้อร่วมด้วยระหว่างซักก็ช่วยกำจัดเชื้อได้เช่นกัน

2.สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่รักสวยรักงามที่ตามเทรนด์เสื้อผ้าแบบไม่มีเอาท์ ก็ต้องหมั่นสังเกตอาการด้วยว่า แพ้ผ้าชนิดใดหรือไม่ ผู้อำนวยการสถาบันผิวหนัง บอกว่า หากเราใส่ใจสุขภาพผิวสักเล็กน้อยก็จะทำให้ทราบว่าแพ้ผ้าชนิดใด โดยทั่วไปอาการแพ้เนื้อผ้าจะคล้ายๆ กันในคนปกติ เช่น แพ้ผ้าขนสัตว์ ผ้าสักหลาด กำมะหยี่ ก็อาจมีอาการระคายเคืองผิวหนัง และเป็นจุดแดงกระจายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ลุกลามไปตามผิว ก็มักจะก่อความรำคาญให้ต้องเกาตลอดเวลา ซึ่งสร้างบุคลิกที่ไม่ดีนักเวลาอยู่ร่วมกับคนอื่น ดังนั้น หากแพ้ผ้าชนิดดังกล่าวก็ควรหลีกเลี่ยง และไต้องกังวลว่าจะไม่ทันต่อกระแสแฟชั่น เพราะยังมีเสื้อกันหนาวหลายชนิดให้เลือกใช้ แม้ว่าจะไม่เก๋ไก๋เท่ากับผ้าขนสัตว์ชั้นดี แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องพะวงกับค่ารักษาพยาบาลจากอาการแพ้

“ในคนเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว อย่างแพ้อากาศ แพ้ฝุ่น จำเป็นอย่างยิ่งกับการใส่ใจเรื่องการแต่งกาย เนื่องจากคนมีอาการแพ้ ร่างกายต้องการความปลอดโปร่ง แต่เนื่องจากแระแสการสวมเสื้อผ้ารัด และฟิต ยังเป็นที่นิยมกันมาก หลายคนจึงพยายามฝืนสภาพร่างกายเพื่อให้ทันต่อกระแสเสื้อผ้า โดยในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนที่ผ่านมาพบผู้มีปัญหาภูมิแพ้เข้ารักษาในสถาบันผิวหนังเรื่อยๆ ส่วนมากเป็นวัยรุ่น และเมื่อเข้าสู่หน้าหนาเป็นไปได้ว่า หลายคนเลือกที่จะสวมเสื้อคลุมหนาๆ แล้วสวมกางเกงยีนส์ฟิต แน่น ทับเสื้อ ซึ่งหากมีประวัติเป็นภูมิแพ้ ก็จะเกิดอาการเป็นจุด แดง นูนเป็นแถบ ตามเนื้อผ้าที่รัดกุมร่างกายไว้”

นพ.จิโรจน์ ย้ำว่า ขอเตือนผู้เป็นภูมิแพ้ไว้ว่า หากไม่อยากมีอาการคันรุนแรงบริเวณผิวหนัง เพราะผื่นแพ้ ขึ้นก็ควรสวมเสื้อผ้าแบบโปร่ง ระบายอากาศได้ดี อย่าพยายามสวมสเวตเตอร์หรือสวมเสื้อคลุมแล้วยัดในแน่นหนา ไม่เช่นนั้น หากอาการแพ้หนักขึ้น ก็เสี่ยงที่จะมีไข้ร่วมด้วย ส่งผลต่อสุขภาพที่อ่อนแอลง ยิ่งช่วงอากาศหนาวด้วยแล้วก็จะยิ่งอันตราย