แนะวิธีเลือกของขวัญปีใหม่ ไม่แพงแต่มีคุณค่าทางใจทั้งผู้ให้ ผู้รับ เลือกกระเช้าสังเกตวันหมดอายุ ของสดซื้อจัดเอง เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้รางวัลตัวเองด้วยการ ตั้งใจดูแลสุขภาพตั้งแต่ปลายปีนี้
นายสง่า ดามาพงศ์ ผู้จัดการโครงการโภชนาการสมวัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ การมอบของขวัญให้แก่กันเป็นสัญลักษณ์แห่งการส่งต่อความสุขกับคนที่รักและเคารพ โดยเฉพาะในช่วงหลังจากอุทกภัยครั้งใหญ่ การส่งความสุข ถือเป็นการสร้างกำลังใจให้กันและกันอีกด้วย สำหรับการเลือกของขวัญ มีหลักการง่ายๆ สิ่งแรกคือ คำนึงถึงความต้องการของผู้รับ ประโยชน์ของสิ่งที่ซื้อ สามารถนำไปใช้งานได้หรือไม่ โดยของขวัญไม่จำเป็นว่าต้องเป็นของแพง แต่เลือกของที่มีคุณค่าต่อผู้รับ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงของที่ทำลายสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะของขวัญหมายถึงความห่วงใย ใส่ใจ
นายสง่ากล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกกระเช้าของขวัญ หากเป็นกระเช้าสำเร็จรูปต้องระวังเรื่องวันหมดอายุ ซึ่งปัจจุบันมีข้อกำหนดให้แสดงรายการสินค้าและวันหมดอายุ และควรหลีกเลี่ยงการซื้อกระเช้าที่ไม่แสดงรายการสินค้าและวันหมดอายุ หากเป็นกระเช้าผลไม้ หรืออาหาร ไม่ควรเลือกกระเช้าจัดสำเร็จแล้ว เพราะอาจมองไม่เห็นอาหารด้านล่างกระเช้าว่าสดหรือไม่ แต่ควรเลือกอาหาร ผลไม้สดมาจัดเองจะประหยัดและได้คุณภาพมากกว่า อีกทั้งยังมีคุณค่าทางจิตใจทั้งผู้ให้ และผู้รับ ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ควรเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมสินค้าไทยอีกด้วย
“การจัดงานเลี้ยงหรือกินอาหารนอกบ้านร่วมกันเพื่อฉลองปีใหม่ ถือเป็นการให้ของขวัญปีใหม่แก่กันอีกรูปแบบหนึ่ง แต่กินแล้วต้องเกิดความสุข ดังนั้นต้องคำนึงถึงประเภทอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คือ อาหารที่มีครบทั้ง 5 หมู่ เป็นอาหารที่ หวาน มัน เค็มน้อย เน้นผักผลไม้ การเลี้ยงสังสรรค์หากเปลี่ยนมาใช้น้ำสมุนไพร หรือ น้ำผลไม้แทน ก็จะยิ่งได้ความสุขเพิ่มขึ้น เพราะไม่ทำลายสุขภาพ และลดความเสี่ยงจากการเมาแล้วเกิดอุบัติเหตุหรือทะเลาะวิวาท ถือเป็นการแสดงความห่วงใยต่อคนรอบข้างและคนที่เรารักอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ ยังต้องไม่ลืมให้ความสุขเพื่อเป็นของขวัญตนเองและคนใกล้ตัว ด้วยการเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ เช่น การออกกำลังกาย ดูแลอาหาร รักษาสุขภาพ ให้เวลาใกล้ชิดกับครอบครัว ร่วมอ่านหนังสือดีๆ กับลูก หรือ สวดมนต์ข้ามปีและทำจิตใจให้บริสุทธิ์แจ่มใส เพื่อเริ่มต้นปีที่ดีๆ ซึ่งจะนำไปสู่ความสุขตลอดทั้งปี” นายสง่ากล่าว
นายสง่า ดามาพงศ์ ผู้จัดการโครงการโภชนาการสมวัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ การมอบของขวัญให้แก่กันเป็นสัญลักษณ์แห่งการส่งต่อความสุขกับคนที่รักและเคารพ โดยเฉพาะในช่วงหลังจากอุทกภัยครั้งใหญ่ การส่งความสุข ถือเป็นการสร้างกำลังใจให้กันและกันอีกด้วย สำหรับการเลือกของขวัญ มีหลักการง่ายๆ สิ่งแรกคือ คำนึงถึงความต้องการของผู้รับ ประโยชน์ของสิ่งที่ซื้อ สามารถนำไปใช้งานได้หรือไม่ โดยของขวัญไม่จำเป็นว่าต้องเป็นของแพง แต่เลือกของที่มีคุณค่าต่อผู้รับ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงของที่ทำลายสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะของขวัญหมายถึงความห่วงใย ใส่ใจ
นายสง่ากล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกกระเช้าของขวัญ หากเป็นกระเช้าสำเร็จรูปต้องระวังเรื่องวันหมดอายุ ซึ่งปัจจุบันมีข้อกำหนดให้แสดงรายการสินค้าและวันหมดอายุ และควรหลีกเลี่ยงการซื้อกระเช้าที่ไม่แสดงรายการสินค้าและวันหมดอายุ หากเป็นกระเช้าผลไม้ หรืออาหาร ไม่ควรเลือกกระเช้าจัดสำเร็จแล้ว เพราะอาจมองไม่เห็นอาหารด้านล่างกระเช้าว่าสดหรือไม่ แต่ควรเลือกอาหาร ผลไม้สดมาจัดเองจะประหยัดและได้คุณภาพมากกว่า อีกทั้งยังมีคุณค่าทางจิตใจทั้งผู้ให้ และผู้รับ ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ควรเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมสินค้าไทยอีกด้วย
“การจัดงานเลี้ยงหรือกินอาหารนอกบ้านร่วมกันเพื่อฉลองปีใหม่ ถือเป็นการให้ของขวัญปีใหม่แก่กันอีกรูปแบบหนึ่ง แต่กินแล้วต้องเกิดความสุข ดังนั้นต้องคำนึงถึงประเภทอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คือ อาหารที่มีครบทั้ง 5 หมู่ เป็นอาหารที่ หวาน มัน เค็มน้อย เน้นผักผลไม้ การเลี้ยงสังสรรค์หากเปลี่ยนมาใช้น้ำสมุนไพร หรือ น้ำผลไม้แทน ก็จะยิ่งได้ความสุขเพิ่มขึ้น เพราะไม่ทำลายสุขภาพ และลดความเสี่ยงจากการเมาแล้วเกิดอุบัติเหตุหรือทะเลาะวิวาท ถือเป็นการแสดงความห่วงใยต่อคนรอบข้างและคนที่เรารักอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ ยังต้องไม่ลืมให้ความสุขเพื่อเป็นของขวัญตนเองและคนใกล้ตัว ด้วยการเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ เช่น การออกกำลังกาย ดูแลอาหาร รักษาสุขภาพ ให้เวลาใกล้ชิดกับครอบครัว ร่วมอ่านหนังสือดีๆ กับลูก หรือ สวดมนต์ข้ามปีและทำจิตใจให้บริสุทธิ์แจ่มใส เพื่อเริ่มต้นปีที่ดีๆ ซึ่งจะนำไปสู่ความสุขตลอดทั้งปี” นายสง่ากล่าว