“กำจร” แจงทิศทางวิจัยของสถาบันอุดมศึกษา ต่อ กมธ.ศธ.เน้นพัฒนาสังคมเป็นหลัก
นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยภายหลัง ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา เรื่อง ทิศทางการวิจัยของสถาบันอุดมศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ในการเข้าชี้แจงดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และ สำนักงานกองทุนสนันสนุนงานวิจัย (สกว.) ได้พยายามชี้ให้เห็นทิศทางการดำเนินงานวิจัย ว่า จะเน้นงานวิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมเป็นหลัก ขณะที่งานวิจัยในบางเรื่องต้องใช้เวลาดำเนินการจึงจะเห็นผล ดังนั้น งบประมาณที่สนับสนุนจึงต้องมีความต่อเนื่อง และหากปรับลดงบประมาณลงไป จะส่งผลกระทบทำให้งานวิจัยที่ดำเนินการอยู่หยุดชะงัก และไม่สามารถเกิดงานวิจัยใหม่ๆ ที่จะมาช่วยพัฒนาประเทศได้
นพ.กำจร กล่าวต่อว่า ซึ่งทางคณะกรรมาธิการเห็นด้วยที่รัฐบาลควรจะสนับสนุนงบวิจัยเพื่อให้งานเกิดความต่อเนื่อง โดยเห็นควรให้แปรญัตติให้ได้งบวิจัยกลับคืนมาเท่าเดิมตามที่เสนอขอไปตั้งแต่แรก คือ 2,000 ล้านบาท ซึ่ง สกอ.จะจัดทำรายละเอียด ข้อมูลที่ชี้แจงถึงความจำเป็นของงบประมาณด้านการวิจัยเสนอต่อนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อขอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นผู้แปรญัตติต่อกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ให้ และคิดว่า นายวรวัจน์ น่าจะสามารถช่วยทำให้ได้งบวิจัยกลับคืนมา
นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยภายหลัง ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา เรื่อง ทิศทางการวิจัยของสถาบันอุดมศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ในการเข้าชี้แจงดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และ สำนักงานกองทุนสนันสนุนงานวิจัย (สกว.) ได้พยายามชี้ให้เห็นทิศทางการดำเนินงานวิจัย ว่า จะเน้นงานวิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมเป็นหลัก ขณะที่งานวิจัยในบางเรื่องต้องใช้เวลาดำเนินการจึงจะเห็นผล ดังนั้น งบประมาณที่สนับสนุนจึงต้องมีความต่อเนื่อง และหากปรับลดงบประมาณลงไป จะส่งผลกระทบทำให้งานวิจัยที่ดำเนินการอยู่หยุดชะงัก และไม่สามารถเกิดงานวิจัยใหม่ๆ ที่จะมาช่วยพัฒนาประเทศได้
นพ.กำจร กล่าวต่อว่า ซึ่งทางคณะกรรมาธิการเห็นด้วยที่รัฐบาลควรจะสนับสนุนงบวิจัยเพื่อให้งานเกิดความต่อเนื่อง โดยเห็นควรให้แปรญัตติให้ได้งบวิจัยกลับคืนมาเท่าเดิมตามที่เสนอขอไปตั้งแต่แรก คือ 2,000 ล้านบาท ซึ่ง สกอ.จะจัดทำรายละเอียด ข้อมูลที่ชี้แจงถึงความจำเป็นของงบประมาณด้านการวิจัยเสนอต่อนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อขอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นผู้แปรญัตติต่อกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ให้ และคิดว่า นายวรวัจน์ น่าจะสามารถช่วยทำให้ได้งบวิจัยกลับคืนมา