กทม.จับมือ 4 แบงก์ ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ไม่มีทะเบียนในเมืองกรุงก็กู้ได้ให้ผ่อนยาวถึง 30 ปี เน้นจัดปีใหม่เรียบง่ายจัดสวดมนต์ข้ามปีที่สนามหลวง พร้อมติดตั้งซีซีทีวีในจุดเสี่ยงเพิ่ม
วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลา 14.00 น.ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานในงานแถลงข่าวและลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการ “ยิ้มสู้กู้ภัยน้ำท่วม” ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่งประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสินเชื่อแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า โครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” เป็นโครงการที่ กทม.จัดทำขึ้นเพื่อมุ่งหวังให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ผู้ประการรายย่อยรวมทั้งผู้ประกอบกิจการ ธุรกิจการค้า หรือบริการขนาดเล็กที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมด้วยสถานการณ์มหาอุทกภัย ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับความเสียหายจำนวน 600,000 ครัวเรือน จากทั้งหมด 37 เขต ซึ่งส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วนประชาชนส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์ในการฟื้นฟูและมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องหันไปกู้ยืมเงินนอกระบบ ที่มีดอกเบี้ยสูง ซึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามเวลาที่กำหนด กทม.พร้อมอยู่เคียงข้างผู้ได้รับผลกระทบจึงได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อเปิดโอกาสให้บริการสินเชื่อพิเศษแก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม และผู้ที่ได้รับผลกระทบในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายรวมทั้งนำไปลงทุนทำการค้า ฟื้นฟูหรือสร้างกิจการใหม่เพื่อสภาพความเป็นอยู่ที่ดีไม่น้อยไปกว่าเดิม
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สนใจให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นกทม.จะจัดมหกรรม “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 ธ.ค.2554 ณ อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์กีฬาเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยภายในงานจะมีการเปิดบูธเพื่อเปิดรับสมัครพร้อมให้คำแนะนำจากสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการซึ่งประชาชนหรือสถานประกอบการที่สนใจสามารถนำเอกสาร หลักฐานมาแสดงความจำนงได้ โดยจะอนุมัติวงเงินให้สินเชื่อสูงสุดตามความจำเป็นในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด และผ่อนชำระเงินคืนนานสูงสุดถึง 30 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้านใน กทม.อีกด้วย และพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันงาน จะได้รับบัตร Fast-Track ซึ่งเป็นบัตรสิทธิพิเศษได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินก่อนใคร หากเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้องสามารถรู้ผลได้ใน 5 วัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กทม.มีโครงการยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพที่ร่วมกับธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 1.4 แสนคน และปล่อยกู้กว่า 7,000 ล้านบาทซึ่งเห็นว่าผู้กู้รายย่อยสามารถชำระหนี้ได้ตรงตามเวลาและไม่มีหนี้เสียเกิดขึ้นจึงเชื่อว่าโครงการยิ้มสู้กู้ภัยน้ำท่วมจะประสบความสำเร็จ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงการจัดงานปีใหม่ด้วยว่ากทม.ก็จะปฏิบัติหน้าที่ในการสนับสนุนหน่วยงานอื่น ส่วนกิจกรรมหลัก กทม.จะเน้นความเรียบง่าย ซึ่งก็จะสนับสนุนการจัดงานเคาตน์ดาวน์ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์เป็นประจำทุกปี และจะเน้นจัดที่บริเวณลานคนเมือง ซึ่ง กทม.จะร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ในการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคลรวมทั้งในปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงจะร่วมการตั้งจิตภาวนาให้กับผู้ที่เสียชีวิตพร้อมกับให้ประเทศปลอดภัยในปีหน้า สำหรับพื้นที่เสียงที่อาจจะเกิดความไม่สงบในช่วงปีใหม่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ซึ่งจะมีการตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่หากพื้นที่ใดที่ไม่มีก็สามารถติดตั้งได้ในเวลาที่เหลืออยู่สำหรับกรณีการวางระเบิดบริเวณหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน กทม.ได้ร่วมมือกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยการส่งข้อมูลและภาพจากกล้องซีซีทีวีให้
วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลา 14.00 น.ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานในงานแถลงข่าวและลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการ “ยิ้มสู้กู้ภัยน้ำท่วม” ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่งประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสินเชื่อแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า โครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” เป็นโครงการที่ กทม.จัดทำขึ้นเพื่อมุ่งหวังให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ผู้ประการรายย่อยรวมทั้งผู้ประกอบกิจการ ธุรกิจการค้า หรือบริการขนาดเล็กที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมด้วยสถานการณ์มหาอุทกภัย ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับความเสียหายจำนวน 600,000 ครัวเรือน จากทั้งหมด 37 เขต ซึ่งส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วนประชาชนส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์ในการฟื้นฟูและมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องหันไปกู้ยืมเงินนอกระบบ ที่มีดอกเบี้ยสูง ซึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามเวลาที่กำหนด กทม.พร้อมอยู่เคียงข้างผู้ได้รับผลกระทบจึงได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อเปิดโอกาสให้บริการสินเชื่อพิเศษแก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม และผู้ที่ได้รับผลกระทบในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายรวมทั้งนำไปลงทุนทำการค้า ฟื้นฟูหรือสร้างกิจการใหม่เพื่อสภาพความเป็นอยู่ที่ดีไม่น้อยไปกว่าเดิม
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สนใจให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นกทม.จะจัดมหกรรม “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 ธ.ค.2554 ณ อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์กีฬาเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยภายในงานจะมีการเปิดบูธเพื่อเปิดรับสมัครพร้อมให้คำแนะนำจากสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการซึ่งประชาชนหรือสถานประกอบการที่สนใจสามารถนำเอกสาร หลักฐานมาแสดงความจำนงได้ โดยจะอนุมัติวงเงินให้สินเชื่อสูงสุดตามความจำเป็นในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด และผ่อนชำระเงินคืนนานสูงสุดถึง 30 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้านใน กทม.อีกด้วย และพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันงาน จะได้รับบัตร Fast-Track ซึ่งเป็นบัตรสิทธิพิเศษได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินก่อนใคร หากเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้องสามารถรู้ผลได้ใน 5 วัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กทม.มีโครงการยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพที่ร่วมกับธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 1.4 แสนคน และปล่อยกู้กว่า 7,000 ล้านบาทซึ่งเห็นว่าผู้กู้รายย่อยสามารถชำระหนี้ได้ตรงตามเวลาและไม่มีหนี้เสียเกิดขึ้นจึงเชื่อว่าโครงการยิ้มสู้กู้ภัยน้ำท่วมจะประสบความสำเร็จ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงการจัดงานปีใหม่ด้วยว่ากทม.ก็จะปฏิบัติหน้าที่ในการสนับสนุนหน่วยงานอื่น ส่วนกิจกรรมหลัก กทม.จะเน้นความเรียบง่าย ซึ่งก็จะสนับสนุนการจัดงานเคาตน์ดาวน์ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์เป็นประจำทุกปี และจะเน้นจัดที่บริเวณลานคนเมือง ซึ่ง กทม.จะร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ในการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคลรวมทั้งในปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงจะร่วมการตั้งจิตภาวนาให้กับผู้ที่เสียชีวิตพร้อมกับให้ประเทศปลอดภัยในปีหน้า สำหรับพื้นที่เสียงที่อาจจะเกิดความไม่สงบในช่วงปีใหม่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ซึ่งจะมีการตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่หากพื้นที่ใดที่ไม่มีก็สามารถติดตั้งได้ในเวลาที่เหลืออยู่สำหรับกรณีการวางระเบิดบริเวณหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน กทม.ได้ร่วมมือกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยการส่งข้อมูลและภาพจากกล้องซีซีทีวีให้
