กทม. จับมือ ภาครัฐ และเอกชน จัดโครงการส่งเสริมการคัดแยกขยะก่อนทิ้งเพื่อลดปริมาณขยะในพื้นที่น้ำท่วม 10 เขต หลังมีขยะตกค้างจำนวนมาก ซึ่งจัดเก็บแล้วกว่า 30,000 ตัน คาดตกค้างอีกราว 70,000 ตัน ตั้งเป้าจัดการขยะกลับสู่ภาวะปกติภายในสิ้นปี
วานนี้ (10 ธ.ค.) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดเก็บขยะ และการคัดแยกขยะตามโครงการ “ฟื้นฟูชุมชนกรุงเทพมหานครหลังน้ำลด เพื่อสุขภาวะที่ดี” ที่ บริเวณสถานที่พักขยะ ถ.พุทธมณฑลสาย 1 เขตภาษีเจริญ
นายพรเทพ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษา อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย (ศบภ.ร.19 พัน.22) เอสซีจี ซีเมนต์ โดยบริษัท เอสซีไอ อิโค่ เซอร์วิสเซล จำกัด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดโครงการ “ฟื้นฟูชุมชนกรุงเทพมหานครหลังน้ำลด เพื่อสุขภาวะที่ดี” เพื่อเป็นต้นแบบการคัดแยกขยะให้พื้นที่อื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องขยะ โดยเฉพาะหลังจากน้ำลดลงมีขยะจากน้ำท่วมตกค้างเป็นจำนวนมาก กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการจัดเก็บขยะอย่างเร่งด่วนต่อเนื่องตลอดมาแต่เนื่องจากมีขยะตกค้างเป็นจำนวนมากในพื้นที่ 10 เขตที่มีน้ำท่วมหนักรวมประมาณ 100,000 ตัน จัดเก็บไปแล้วประมาณ 30,000 ตัน ยังตกค้างอยู่ราว 70,000 ตัน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณขยะได้มาก โดยจะมีการคัดแยกขยะออกเป็นแต่ละประเภทก่อนนำไปทิ้ง เช่น ขยะรีไซเคิลจะนำกลับเข้าสู่กระบวนการแปรรูป ขยะบางอย่างนำไปเป็นปุ๋ยได้ และบางส่วนนำไปขายได้
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ขอขอบคุณ ศปภ. ที่ได้สนับสนุนรถเก็บขยะ รถตัก และรถดั๊ม รวมประมาณ 60 คัน ในการจัดเก็บขยะในพื้นที่ 10 เขต ที่ประสบภัยน้ำท่วมรุนแรงจนมีขยะตกค้างเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ระดมกำลังคนจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดเพื่อเร่งเก็บขยะในพื้นที่ดังกล่าว ให้กลับเข้าสู่ภาวะการจัดเก็บขยะตามปกติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในสิ้นปีนี้
จากนั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตทวีวัฒนา และทหารจาก ร.19 พัน.1 จ.กาญจนบุรี ที่ร่วมกิจกรรมทำความสะอาด ณ บริเวณหมู่บ้านชวนชื่น ถ.พุทธมณฑลสาย 2 เขตทวีวัฒนา ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้ย้ายกลับเข้าอยู่อาศัยในบ้านเรือนของตนแล้ว
วานนี้ (10 ธ.ค.) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดเก็บขยะ และการคัดแยกขยะตามโครงการ “ฟื้นฟูชุมชนกรุงเทพมหานครหลังน้ำลด เพื่อสุขภาวะที่ดี” ที่ บริเวณสถานที่พักขยะ ถ.พุทธมณฑลสาย 1 เขตภาษีเจริญ
นายพรเทพ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษา อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย (ศบภ.ร.19 พัน.22) เอสซีจี ซีเมนต์ โดยบริษัท เอสซีไอ อิโค่ เซอร์วิสเซล จำกัด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดโครงการ “ฟื้นฟูชุมชนกรุงเทพมหานครหลังน้ำลด เพื่อสุขภาวะที่ดี” เพื่อเป็นต้นแบบการคัดแยกขยะให้พื้นที่อื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องขยะ โดยเฉพาะหลังจากน้ำลดลงมีขยะจากน้ำท่วมตกค้างเป็นจำนวนมาก กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการจัดเก็บขยะอย่างเร่งด่วนต่อเนื่องตลอดมาแต่เนื่องจากมีขยะตกค้างเป็นจำนวนมากในพื้นที่ 10 เขตที่มีน้ำท่วมหนักรวมประมาณ 100,000 ตัน จัดเก็บไปแล้วประมาณ 30,000 ตัน ยังตกค้างอยู่ราว 70,000 ตัน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณขยะได้มาก โดยจะมีการคัดแยกขยะออกเป็นแต่ละประเภทก่อนนำไปทิ้ง เช่น ขยะรีไซเคิลจะนำกลับเข้าสู่กระบวนการแปรรูป ขยะบางอย่างนำไปเป็นปุ๋ยได้ และบางส่วนนำไปขายได้
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ขอขอบคุณ ศปภ. ที่ได้สนับสนุนรถเก็บขยะ รถตัก และรถดั๊ม รวมประมาณ 60 คัน ในการจัดเก็บขยะในพื้นที่ 10 เขต ที่ประสบภัยน้ำท่วมรุนแรงจนมีขยะตกค้างเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ระดมกำลังคนจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดเพื่อเร่งเก็บขยะในพื้นที่ดังกล่าว ให้กลับเข้าสู่ภาวะการจัดเก็บขยะตามปกติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในสิ้นปีนี้
จากนั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตทวีวัฒนา และทหารจาก ร.19 พัน.1 จ.กาญจนบุรี ที่ร่วมกิจกรรมทำความสะอาด ณ บริเวณหมู่บ้านชวนชื่น ถ.พุทธมณฑลสาย 2 เขตทวีวัฒนา ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้ย้ายกลับเข้าอยู่อาศัยในบ้านเรือนของตนแล้ว