เอ็นจีโอวอนรัฐช่วยประสานนายจ้างอุ้มแรงงานต่าวด้าวพื้นที่น้ำท่วมช่วงฟื้นฟู ทั้งความเป็นอยู่-ค่าจ้างค้างจ่าย แนะเปิดช่องให้เปลี่ยนนายจ้าง-ออกนอกพื้นที่เพื่ออพยพได้ เหตุนายจ้างทิ้ง ความช่วยเหลือไม่ถึง ต้องปักหลักในพื้นที่น้ำท่วมเพราะกลัว จนท.จับกุม ชี้ควรออกหนังสือให้ จนท.ไม่จับเป็นลายลักษณ์อักษร ป้องกัน จนท.ผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่
นายเสถียร ทันพรม ประธานเครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ กล่าวถึงวิกฤตการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานต่างด้าวว่า ในช่วงฟื้นฟูน้ำท่วมนั้นขอเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประสานงานติดตามความเป็นอยู่และค่าจ้างค้างจ่ายกับนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเสนอเปิดช่องให้แรงงานต่างด้าวที่ยังอยู่ในพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมสามารถอพยพออกจากพื้นที่ที่ลงทะเบียนได้ พร้อมทั้งสามารถเปลี่ยนนายจ้างใหม่ได้ในประเภทกิจการเดียวกัน ตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว 2551
นายเสถียรกล่าวว่า ขณะนี้ยังมีหลายพื้นที่ที่ยังถูกน้ำท่วมอยู่อย่างที่บางบัวทอง ซึ่งยังมีแรงงานต่าวด้าวอาศัยอยู่ จึงอยากเสนอให้ทางหน่วยงานของรัฐเปิดช่อง ตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว 2551 ให้แรงงานสามารถเปลี่ยนนายจ้างซึ่งอยู่ในประเภทกิจการเดียวกันได้ ซึ่งตามข้อกฏหมายหากเจ้าพนักงานไม่ให้เปลี่ยนนายจ้างแรงงานต่างด้าวสามารถอุทรณ์ได้ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่พบแรงงานต่างด้าวยื่นอุทรณ์ เพราะหากยึดตามประกาศเดิม การที่แรงงานต่างด้าวจะเปลี่ยนนายจ้างได้นั้น จะต้องเข้าหลักเกณฑ์ คือ 1.นายจ้างตาย 2.นายจ้างเลิกกิจการ 3.นายจ้างกระทำทารุณ 4.นายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย ซึ่งขณะนี้แรงงานต่างด้าวบางส่วนถูกทอดทิ้งจากนายจ้างทำให้ความเป็นอยู่ลำบากมาก เพราะกลัวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมทำให้ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมที่ถูกน้ำท่วมและห่างไกลความช่วยเหลือ
“ไม่อยากให้เอาตัวแรงงานต่างด้าวไปผูกกับตัวนายจ้างมากเกินไป เพราะช่วงปัญหาน้ำท่วมแรงงานกลุ่มที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำงานเพื่อรอการส่งกลับหรือกลุ่มที่ได้หนังสือ ทร.38/1 ไม่สามารถเดินทางหรือย้ายที่อยู่ข้ามจังหวัดที่ตัวเองลงทะเบียนได้ จึงทำให้ต้องอาศัยอยู่อย่างลำบากในพื้นที่เดิม ซึ่งที่ผ่านมาทาง ศปภ.แถลงว่าจะไม่จับแรงงานที่ต้องอพยพออกนอกพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม และขอให้ตำรวจในท้องที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือ แต่ที่ทราบคือไม่ได้มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าจับกุมแรงงานกลุ่มนี้เมื่อออกนอกพื้นที่ เพราะหากไม่จับก็อาจจะโดนในเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ ทำให้แรงงานบางส่วนถูกจับกุม” นายเสถียรกล่าว
