สพฐ.ขีดเส้นตายภายในเที่ยงพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) เขตพื้นที่ต้องส่งรายชื่อร.ร.น้ำท่วมที่เปิดเทอมตามกำหนด 6 ธ.ค.ไม่ได้ พร้อมเผยเบื้องต้นรับรายงานจังหวัดรอบนอกยังเปิดเทอมไม่ได้ อาทิ ปทุมธานี เขต 1 เปิดได้แค่ 25 โรง อีก 78 โรงยังจมน้ำอยู่ ขณะที่ กทม.เปิดเทอมได้ตามกำหนด ยกเว้น 6 โรง ในเขตบางแค คาดหากต้องเลื่อนเปิดเทอมจะเป็นวันที่ 13 ธ.ค.
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (VDO Conference) กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร ซึ่งยังมีปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ ว่า ได้สั่งการให้ ผอ.สพท.ใน 5 จังหวัด ส่งรายชื่อโรงเรียนที่ประเมินแล้วไม่สามารถเปิดภาคเรียนได้ตามกำหนด 6 ธ.ค.นี้ มาให้ สพฐ.ภายในเที่ยงของพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) พร้อมระบุข้อมูลด้วยว่า โรงเรียนแต่ละน่าจะพร้อมเปิดภาคเรียนเมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่กรุงเทพฯ โรงเรียนส่วนใหญ่สามารถเปิดภาคเรียนได้ตามกำหนด มีแค่โรงเรียนมัธยมศึกษา 4 และโรงเรียนประถมศึกษาอีก 2 โรงในย่านบางแค ที่อาจต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 13 ธ.ค. แต่จังหวัดรอบนอกนั้น มีหลายพื้นที่ไม่สามารถเปิดภาคเรียนในวันที่ 6 ธ.ค.ได้ โดยเฉพาะ จ.ปทุมธานี ยังมีพื้นที่น้ำท่วมสูงอยู่หลายแห่ง อย่างพื้นที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษา (สพป.) จ.ปทุมธานี เขต 1 นั้น มีโรงเรียนประถมศึกษาพร้อมเปิดแค่ 25 โรง ที่เหลืออีก 78 โรงไม่สามารถเปิดได้ หรืออย่างพื้นที่ของ สพป.นครปฐม เขต 2 มีโรงเรียนไม่พร้อมเปิดภาคเรียนตามกำหนด 43% ขณะที่ จ.นนทบุรี ไม่พร้อมเปิดประมาณ 50%
“สพฐ.กำชับทุกเขตพื้นที่ใน 5 จังหวัด พยายามเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด เพื่อให้โรงเรียนที่ยังจมน้ำอยู่กลับมาเปิดภาคเรียนได้ภายในวันที่ 13 ธ.ค.แต่หากเป็นหลังจากนั้นจะดูสถานการณ์วันต่อวัน เพราะนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น ไม่ต้องการให้นักเรียนต้องมาเรียนชดเชยในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าสามารถเปิดภาคเรียนได้โดยเร็ว ก็จะได้ไม่ต้องให้เด็กเรียนชดเชยมาก แต่การเปิดภาคเรียนนั้นก็ต้องดูความเป็นไปได้ และความปลอดภัยของนักเรียนด้วย ถ้านักเรียนยังมีปัญหาในการเดินทางก็อาจต้องเลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม บางเขตพื้นที่ได้เตรียมแผนสำรองไว้แก้ปัญหา อย่างเช่น จ.ปทุมธานี เตรียมใช้วิธีเคลื่อนย้ายนักเรียนไปเรียนที่อื่นแทนโรงเรียนซึ่งยังมีน้ำท่วมสูงอยู่ วิธีนี้จะช่วยให้โรงเรียนเปิดภาคเรียนได้เร็วกว่าการรอให้ระดับน้ำที่โรงเรียนลดลง เพราะฉะนั้น เขตพื้นที่อื่นๆ อาจใช้วิธีเดียวกันนี้ไปปรับใช้ได้ ทั้งนี้ สพฐ.ได้ให้แต่ละ สพท.เสนอแผนแก้ปัญหาเป็นรายโรงมายัง สพฐ. ภายในเที่ยงพร้อมกับข้อมูลโรงเรียนที่ยังไม่สามารถเปิดภาคเรียนได้ด้วย” นายชินภัทรกล่าว