xs
xsm
sm
md
lg

น้ำท่วมพัทลุง ป่วยแล้ว 285 ราย สธ.กำชับเจ้าหน้าที่ดูและเฝ้าระวังโรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
“ต่อพงษ์” ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม พัทลุง มอบยาชุดน้ำท่วม 500 ครัวเรือน พร้อมเผยยอดผู้ป่วยจากน้ำท่วม 285 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด กำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เฝ้าระวังป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม และภายหลังน้ำลด เช่น โรคฉี่หนู โรคอุจจาระร่วง โรคไข้เลือดออก

วันนี้ (27 พ.ย.) นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.)เดินทางตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พัทลุง โดยรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมภายในพื้นที่พัทลุง เยี่ยมผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลปากพะยูน จากนั้นเดินทางไปที่ศาลาประชาคมบ้านบางมวง หมู่ 3 ตำบลฝาละมี อำเภอปากพะยูน เยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลปากพะยูนที่ให้บริการตรวจรักษาผู้ประสบภัย โดยได้ให้กำลังใจผู้ประสบภัย และมอบถุงยังชีพพร้อมยาชุดน้ำท่วมจำนวน 500 ชุด เพื่อให้ครัวเรือนใช้รักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น

นายต่อพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ที่จ.พัทลุง เป็นน้ำหลากจากฝนตกหนัก มีน้ำท่วมพื้นที่ทั้งหมด 11 อำเภอ 59 ตำบล 615 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 154,964 คน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คือ ที่หมู่ 3 ตำบลฝาละมี อำเภอปากพะยูน จำนวน 300 ครัวเรือน ประมาณ 1,000 คน ระดับน้ำท่วมสูง 1 เมตร ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ สธ. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พัทลุง ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยทุกวันวันละ 5 หน่วย เบื้องต้นพบผู้ป่วย 285 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด น้ำกัดเท้า ปวดเมื่อย ไม่มีผู้เสียชีวิต ในส่วนของสถานบริการสาธารณสุขไม่ได้รับผลกระทบใดๆ สามารถเปิดบริการได้ตามปกติ ทุกแห่งมีความพร้อมทั้งบุคลากร เวชภัณฑ์ ดูแลผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ให้โรงพยาบาลทุกแห่ง ปรับระบบการให้บริการประชาชน หากประชาชนเดินทางไปรับบริการไม่สะดวก ให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ดูแลทั้งด้านสุขภาพกายและจิตใจควบคู่กัน พร้อมเฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วมและหลังน้ำลด ได้แก่ โรคฉี่หนู โรคอุจจาระร่วง โรคไข้เลือดออก โรคตาแดง โรคไข้หวัดใหญ่ และให้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ประชาชนในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคด้วย

“สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคกลาง ขณะนี้แนวโน้มดีขึ้น โดยผลกระทบด้านสุขภาพจิต ผลการตรวจคัดกรองพบผู้ประสบภัยมีความเครียดสูง 7,047 ราย ซึมเศร้า 8,818 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 1,558 ราย และต้องติดตามดูแลเป็นพิเศษ 2,513 ราย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งดำเนินการฟื้นฟูเยียวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว” นายต่อพงษ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น