ผู้แทนพระองค์ฯ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ปล่อยคาราวานรถ-เรือ-ฮ. แจกถุงยังชีพพระราชทาน ยาและเวชภัณฑ์ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่เข้าถึงยาก 10 จุด รวม 30,000 ชุด
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่สนามกีฬากระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โปรดให้ นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิฯ เป็นผู้แทนพระองค์ปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปล่อยคาราวานรถยีเอ็มซี รถออฟโรด เรือ และเฮลิคอปเตอร์ มอบถุงประทังชีพพระราชทาน ยาและเวชภัณฑ์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เข้าถึงยาก ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี โดยคาราวานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพอากาศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการ สพฉ.ให้การต้อนรับ
โดย นายสุรชัย กล่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมและการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ได้ขยายวงกว้างและมีระยะเวลายาวนาน ทำให้มีผู้ประสบภัยหลายพื้นที่เกิดปัญหา ขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค ยาและเวชภัณฑ์ โดยการมอบครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากการตรวจสอบพบว่ายังมีผู้ประสบภัยเดือดร้อนอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องประสานความร่วมมือภาคีเครือข่ายให้มีการนำเฮลิคอปเตอร์ รถจีเอ็มซี รถออฟโรด เรือ กระจายไปในจุดต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม
นพ.ชาตรี กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือจะปล่อยคาราวานรถจีเอ็มซีทั้งหมด 45 คัน รถออฟโรด 8 คัน เรือ 73 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 6 ลำ กระจายไปมอบถุงยังชีพ ยาและเวชภัณฑ์กว่า 30,000 ชุด ในพื้นที่ 10 จุด คือ 1.อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 2.อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 3.อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 4.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 5.ต.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร 6. อ.เมือง จ.ปทุมธานี 7.อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 8.อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 9.อ.ผักไห่ จ.อยุธยา และ 10.เขตทวีวัฒนา กทม.
“สำหรับการมอบถุงพระราชทาน ถุงประทังชีพยาและเวชภัณฑ์ให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยนั้น จะเน้นการเข้าถึงประชาชนในพื้นที่เข้าถึงยาก โดยเบื้องต้นได้ส่งทีมงานสำรวจโดยตรงจากผู้นำชุมชนเพื่อให้ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง ซึ่งในพื้นที่น้ำลึกจะใช้เรือและรถยีเอ็มซีส่งต่อ ส่วนเฮลิคอปตอร์นั้นจะดำเนินการโปรยในพื้นที่ที่เรือและรถเข้าถึงยาก เพื่อความครอบคลุม” นพ.ชาตรีกล่าว
พร้อมกันนี้ ผู้แทนพระองค์ฯ ได้มอบปลอกแขนให้อาสาสมัครที่มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัย และมอบเครื่องกรองน้ำ เรือ และยาทำน้ำดื่มสะอาดให้แก่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินต่อไปด้วย
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่สนามกีฬากระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โปรดให้ นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิฯ เป็นผู้แทนพระองค์ปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปล่อยคาราวานรถยีเอ็มซี รถออฟโรด เรือ และเฮลิคอปเตอร์ มอบถุงประทังชีพพระราชทาน ยาและเวชภัณฑ์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เข้าถึงยาก ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี โดยคาราวานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพอากาศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการ สพฉ.ให้การต้อนรับ
โดย นายสุรชัย กล่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมและการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ได้ขยายวงกว้างและมีระยะเวลายาวนาน ทำให้มีผู้ประสบภัยหลายพื้นที่เกิดปัญหา ขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค ยาและเวชภัณฑ์ โดยการมอบครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากการตรวจสอบพบว่ายังมีผู้ประสบภัยเดือดร้อนอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องประสานความร่วมมือภาคีเครือข่ายให้มีการนำเฮลิคอปเตอร์ รถจีเอ็มซี รถออฟโรด เรือ กระจายไปในจุดต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม
นพ.ชาตรี กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือจะปล่อยคาราวานรถจีเอ็มซีทั้งหมด 45 คัน รถออฟโรด 8 คัน เรือ 73 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 6 ลำ กระจายไปมอบถุงยังชีพ ยาและเวชภัณฑ์กว่า 30,000 ชุด ในพื้นที่ 10 จุด คือ 1.อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 2.อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 3.อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 4.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 5.ต.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร 6. อ.เมือง จ.ปทุมธานี 7.อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 8.อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 9.อ.ผักไห่ จ.อยุธยา และ 10.เขตทวีวัฒนา กทม.
“สำหรับการมอบถุงพระราชทาน ถุงประทังชีพยาและเวชภัณฑ์ให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยนั้น จะเน้นการเข้าถึงประชาชนในพื้นที่เข้าถึงยาก โดยเบื้องต้นได้ส่งทีมงานสำรวจโดยตรงจากผู้นำชุมชนเพื่อให้ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง ซึ่งในพื้นที่น้ำลึกจะใช้เรือและรถยีเอ็มซีส่งต่อ ส่วนเฮลิคอปตอร์นั้นจะดำเนินการโปรยในพื้นที่ที่เรือและรถเข้าถึงยาก เพื่อความครอบคลุม” นพ.ชาตรีกล่าว
พร้อมกันนี้ ผู้แทนพระองค์ฯ ได้มอบปลอกแขนให้อาสาสมัครที่มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัย และมอบเครื่องกรองน้ำ เรือ และยาทำน้ำดื่มสะอาดให้แก่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินต่อไปด้วย