ศธ. เตรียมแจกแท็บเล็ตนำร่องใช้กับนักเรียน ป.1 และ ป.4 กระจายใน 4 โรงเรียน 4 ภูมิภาค และให้ มศว ทำการวิจัยผลกระทบที่จะเกิดต่อ นร. “วรวัจน์” ระบุยังไม่ได้จัดซื้อ แต่รับบริจาคผ่านมาทางกระทรวงไอซีที ยันการจัดซื้อต้องดูความพร้อมและรอดูผลวิจัยว่ากระทบต่อเด็ก ป.1 หรือไม่ หากมีปัญหาอาจเลื่อนเป็นช่วงชั้นอื่นแทน
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ตามโครงการ One Tablet PC Per Child ว่า ขณะนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้รับบริจาคแท็บเล็ตจากบริษัท เอสบีโอเอ จำกัด มาจำนวน 600 เครื่อง โดยไอซีทีจะส่งมอบให้ ศธ.อีกครั้ง ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการนำร่อง 4 ภูมิภาคๆ ละ 1 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยโรงเรียนราชวินิต สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กทม. เขต 1 โรงเรียนอนุบาลลำปาง สพป.ลำปาง เขต 1 จ.ลำปาง โรงเรียนอนุบาลพังงา สพป.พังงา จ.พังงา และโรงเรียนสนามบิน สพป.ขอนแก่น เขต 1 จ.ขอนแก่น โดยจะดำเนินการทดสอบใน 2 ช่วงชั้น คือชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) และสพฐ.จะเริ่มวิจัยทดสอบประสาทสัมผัส ความสามารถในการพัฒนาในการใช้แท็บเล็ตว่ามีผลกระทบต่อเด็กหรือไม่ เพื่อที่จะดูข้อกังวลของผู้ที่ห่วงใยสอบถามว่าเด็ก ป.1 จะมีความพร้อมในการใช้แท็บเล็ต และจะมีปัญหาเรื่องสายตา การอ่านหรือไม่ ซึ่งจะดูจากผลการวิจัยเป็นหลัก หากเด็ก ป.1 มีปัญหาก็จะเลื่อนไปช่วงชั้นอื่นแทน โดยจะให้ช่วงชั้นละประมาณ 50 คน ใน 1 โรงเรียน จะได้โรงเรียนละ 100 เครื่อง
“เราจะไม่ซื้อแท็บเล็ตในตอนนี้ แต่ใครที่จะบริจาค ศธ.จะรับไว้ ส่วนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงนั้น จริงๆ แล้วคอมพิวเตอร์ที่ใช้ ไม่จำเป็นจะต้องมีอินเทอร์เน็ต เพราะสามารถใส่เนื้อหาลงไปได้เลย การมีระบบอินเตอร์เน็ตเป็นเพียงการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องเท่านั้น การจัดซื้อแท็บเล็ตจะต้องดูความพร้อมของแต่ละโรงเรียนเป็นหลัก และก่อนที่เราจะจัดซื้อแท็บเล็ตในปีต่อไป ก็จะต้องดูผลการวิจัยเรื่องของผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กด้วย” รมว.ศธ.กล่าว
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า การรับบริจาคดังกล่าวเป็นการรับบริจาคเพื่อประโยชน์ทางวิชาการเท่านั้น ไม่ได้มีข้อผูกมัดหรือเงื่อนไขใด ซึ่งจากนี้ มศว ในฐานะผู้วิจัยก็จะได้ดำเนินการศึกษาข้อดีข้อเสียของการใช้แท็ปเล็ตเพื่อนำข้อมูลเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการต่อไป
