ประธานสวนดุสิตโพล เผยกำลังสำรวจผลกระทบเรื่องการศึกษาที่เกิดจากเหตุน้ำท่วม ใน 2 พันครัวเรือนที่มีเด็กในวัยเรียนและบ้านน้ำท่วมทุกระดับการศึกษา รวมทั้งขอข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายเรียนฟรี 15 ปี และความเห็นว่าควรเดินหน้าโครงการแจกแท็บเล็ต ป.1 ต่อหรือไม่
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.) ในฐานะประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สวนดุสิตโพลกำลังทำการสำรวจความคิดเห็นผลกระทบในด้านการศึกษาซึ่งเกิดจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเป็นครอบครัวที่มีบุตรหลานกำลังเรียน และบ้านถูกน้ำท่วม ที่พักอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิง บ้านตนเอง บ้านญาติ ประมาณ 2,000 ครัวเรือน ที่มีบุตรหลานในระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)/ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับอุดมศึกษา โดยจะสอบถามถึงความเดือนร้อนเฉพาะเรื่องการศึกษาต่อของบุตรหลานว่ามีมากน้อยเพียงใด และอยากให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ช่วยแก้ไขในเรื่องใดบ้าง
ขณะเดียวกัน จะสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพด้วยว่า ในสภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอย่างไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า รายการเรียนฟรีในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 คงไม่สามารถแจกเหมือนเดิมได้ อีกทั้งโครงการ One Tablet Pc Per Child ที่จะแจกแท็ปเล็ต ให้กับนักเรียน ป.1 ทุกคน เพื่อใช้ในการเรียนควรจะดำเนินการเช่นไร เช่นควรแจกตามเดิม ชะลอไว้ก่อนหรือยกเลิกไปเลย เพราะอาจมีสิ่งที่จำเป็น มากกว่าเช่นเสื้อผ้าชุดนักเรียน หนังสือเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ลอยไปกับน้ำ และสิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญคือบางครอบครัวอาจไม่มีเงินจะส่งลูกเรียนต่อ
“ที่น่าห่วงคือ บางครอบครัวอาจต้องให้ลูกออกมาช่วยทำงานเพราะพ่อแม่เองก็ตกงานเช่นกัน ทั้งนี้จะสอบถามด้วยว่าจากผลของน้ำท่วมปีนี้มีผลกระทบต่อการเรียนที่จะให้ลูกหลานเรียนต่อในระดับสูงๆ ขึ้นไปจนจบปริญญาตรีหรือไม่ ซึ่งเมือได้ข้อมูลทั้งหมดแล้วสวนดุสิตโพลจะส่งมอบข้อมูลต่างๆ ให้ ศธ.เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการดำเนินการต่อไป” รศ.ดร.สุขุมกล่าว
รศ.ดร.สุขุมกล่าวอีกว่า ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มอบให้สวนดุสิตโพลไปสำรวจความต้องการรายการเรียนฟรีที่ผู้ปกครองและนักเรียนต้องการนั้น ขณะนี้สามารถดำเนินการสำรวจต่อได้แล้ว โดยสอบถามในจังหวัดที่นำไม่ท่วมหรือน้ำลดลงบ้างแล้ว เบื้องต้นพบข้อมูลในเชิงลบว่าตัวเลขงบประมาณของ ศธ.อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง และโครงเรียนฟรีในปีการศึกษา 2555 จะยิ่งดำเนินการได้ลำบาก เพราะอาจต้องมีการเพิ่มงบในเรื่องชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน รวมไปถึงค่าเดินทาง ค่าอาหารกลางวันด้วย ซึ่งเดิมโครงการเรียนฟรีฯจะไม่ร่วมค่าเดินทาง อาหารกลางวันไว้ และกรณีที่พ่อแม่ไม่มีงานทำจะทำอย่างไรให้ลูกได้เรียนต่อ ซึ่งตรงนี้และอาจทำให้มีนักเรียนต้องออกกลางคันมากขึ้น
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.) ในฐานะประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สวนดุสิตโพลกำลังทำการสำรวจความคิดเห็นผลกระทบในด้านการศึกษาซึ่งเกิดจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเป็นครอบครัวที่มีบุตรหลานกำลังเรียน และบ้านถูกน้ำท่วม ที่พักอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิง บ้านตนเอง บ้านญาติ ประมาณ 2,000 ครัวเรือน ที่มีบุตรหลานในระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)/ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับอุดมศึกษา โดยจะสอบถามถึงความเดือนร้อนเฉพาะเรื่องการศึกษาต่อของบุตรหลานว่ามีมากน้อยเพียงใด และอยากให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ช่วยแก้ไขในเรื่องใดบ้าง
ขณะเดียวกัน จะสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพด้วยว่า ในสภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอย่างไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า รายการเรียนฟรีในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 คงไม่สามารถแจกเหมือนเดิมได้ อีกทั้งโครงการ One Tablet Pc Per Child ที่จะแจกแท็ปเล็ต ให้กับนักเรียน ป.1 ทุกคน เพื่อใช้ในการเรียนควรจะดำเนินการเช่นไร เช่นควรแจกตามเดิม ชะลอไว้ก่อนหรือยกเลิกไปเลย เพราะอาจมีสิ่งที่จำเป็น มากกว่าเช่นเสื้อผ้าชุดนักเรียน หนังสือเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ลอยไปกับน้ำ และสิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญคือบางครอบครัวอาจไม่มีเงินจะส่งลูกเรียนต่อ
“ที่น่าห่วงคือ บางครอบครัวอาจต้องให้ลูกออกมาช่วยทำงานเพราะพ่อแม่เองก็ตกงานเช่นกัน ทั้งนี้จะสอบถามด้วยว่าจากผลของน้ำท่วมปีนี้มีผลกระทบต่อการเรียนที่จะให้ลูกหลานเรียนต่อในระดับสูงๆ ขึ้นไปจนจบปริญญาตรีหรือไม่ ซึ่งเมือได้ข้อมูลทั้งหมดแล้วสวนดุสิตโพลจะส่งมอบข้อมูลต่างๆ ให้ ศธ.เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการดำเนินการต่อไป” รศ.ดร.สุขุมกล่าว
รศ.ดร.สุขุมกล่าวอีกว่า ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มอบให้สวนดุสิตโพลไปสำรวจความต้องการรายการเรียนฟรีที่ผู้ปกครองและนักเรียนต้องการนั้น ขณะนี้สามารถดำเนินการสำรวจต่อได้แล้ว โดยสอบถามในจังหวัดที่นำไม่ท่วมหรือน้ำลดลงบ้างแล้ว เบื้องต้นพบข้อมูลในเชิงลบว่าตัวเลขงบประมาณของ ศธ.อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง และโครงเรียนฟรีในปีการศึกษา 2555 จะยิ่งดำเนินการได้ลำบาก เพราะอาจต้องมีการเพิ่มงบในเรื่องชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน รวมไปถึงค่าเดินทาง ค่าอาหารกลางวันด้วย ซึ่งเดิมโครงการเรียนฟรีฯจะไม่ร่วมค่าเดินทาง อาหารกลางวันไว้ และกรณีที่พ่อแม่ไม่มีงานทำจะทำอย่างไรให้ลูกได้เรียนต่อ ซึ่งตรงนี้และอาจทำให้มีนักเรียนต้องออกกลางคันมากขึ้น
