จารยา บุญมาก
ยามนี้ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับพื้นที่ จ.นนทบุรี เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย ทั้ง อ.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด อ.บางบัวทอง และ อ.เมือง กระทรวงสาสาธารณสุขจึงได้เตรียมศูนย์พักพิงไว้รองรับแบ่งเบาทุกข์ร้อนของประชาชน
วิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งให้เตรียมพร้อมเป็นศูนย์พักพิงประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมแห่งที่ 2 ของ จ.นนทบุรี ต่อจากสนามกีฬาจังหวัด โดยได้มีการเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งในอาคารโรงยิม 1 ชั้น ที่รองรับประชาชนได้ประมาณ 500 คน ขณะนี้ได้ปูเสื่อสานไว้พร้อมแล้ว นอกจากนี้ยังได้เตรียมพัดลม เครื่องนอน หมอน มุ้ง รวมถึงอาหารไว้อย่างเพียงพอแก่จำนวนผู้ประสบภัย และสำรองห้องประชุมชั้น 2 ของอาคารสระว่ายน้ำติดกับโรงยิม ที่รองรับคนได้ประมาณ 300 คน ไว้อีกด้วย หากเกิดกรณีน้ำขึ้นสูงมายังพื้นที่ชั้น 1 ของโรงยิม
นอกจากนี้ มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ฉีดพ่นยากันยุงรอบพื้นที่ แต่เบื้องต้นยังมั่นใจว่า ชั้น 1 ของโรงยิม น้ำไม่น่าจะท่วมถึงเนื่องจากจุดที่ตั้งของโรงยิมเป็นพื้นที่ยกสูง อีกทั้งตั้งแต่ย้ายกระทรวงสาธารณสุข มาที่ จ.นนทบุรี เกือบ 20 ปีแล้วไม่เคยมีน้ำท่วมถึงแม้แต่ครั้งเดียว
สำหรับภายในศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงในศูนย์กีฬา ของ สธ.นั้นได้มี ประชาชนและเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ (ขรก.) สธ.พร้อมญาติเดินทางมาลงทะเบียนในศูนย์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีมาลงทะเบียนทั้งจองพื้นที่ ทั้งพักราว 300 คน จากความสามารถในการรองรับทั้งหมด 1,000 คน โดยส่วนมากอพยพมาจากพื้นที่ อ.ท่าอิฐ และ อ.บางบัวทอง
น.ส.สินีนุช สหัสรังสินี อายุ 21 ปี ชาวหมู่บ้านชลดา บางบัวทอง จ.นนทบุรี กล่าวว่า ตนได้อพยพออกจากหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ต.ค.โดยมีญาติซึ่งทำงานใน สธ.ช่วยลงทะเบียนจองที่พักให้ ซึ่งตนยอมรับว่า การได้หนีน้ำมาอยู่ที่ศูนย์อพยพนั้นถือว่ามีบริการที่อำนวยความสะดวกอย่างดี อาหารน้ำและบริการด้านการแพทย์อย่างครบถ้วน เพราะน้ำในหมู่บ้านท่วมสูงสุดที่ระดับคอ และต่ำสุดระดับหัวเข่า ตนจึงตัดสินใจหยิบทรัพย์สินส่วนตัวที่มีเพียงแค่กระเป๋าเงินกับโทรศัพท์เคลื่อนที่และเสื้อผ้าบางส่วนเท่านั้น ซึ่งหากน้ำลดก็จะกลับไปที่หมู่บ้านโดยเร็ว
“การอยู่ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของเรา เพราะเจ้าหน้าที่บริการอย่างดี หลังจากที่ผู้นำในหมู่บ้านและกรรมการในหมู่บ้านละเลยมาตลอด เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมมานั้นชาวบ้านต่างแตกตื่นและหนีออกนอกพื้นที่กันหมด เนื่องจากน้ำขึ้นจากรดับเอวถึงระดับคอแค่ในเวลา 2 ชั่วโมง ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านเคยประกาศไว้ว่าจะไม่ท่วม” น.ส.สินีนุช กล่าว
สำหรับที่กระทรวงสาธารณสุข บริเวณศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัด สธ.ได้มีการเอาถุงพลาสติกมาห่อหุ้มพื้นที่อาคาและนำถุงทรายมากั้นน้ำไว้แล้ว จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า เป็นการป้องกันไว้ก่อนเพราะหากศูนย์ฯล่มการจัดทำระบบข้อมูลของ สธ.อาจจะได้รับผลกระทบ ดังนั้น ต้องป้องกันไว้ก่อน
ยามนี้ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับพื้นที่ จ.นนทบุรี เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย ทั้ง อ.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด อ.บางบัวทอง และ อ.เมือง กระทรวงสาสาธารณสุขจึงได้เตรียมศูนย์พักพิงไว้รองรับแบ่งเบาทุกข์ร้อนของประชาชน
วิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งให้เตรียมพร้อมเป็นศูนย์พักพิงประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมแห่งที่ 2 ของ จ.นนทบุรี ต่อจากสนามกีฬาจังหวัด โดยได้มีการเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งในอาคารโรงยิม 1 ชั้น ที่รองรับประชาชนได้ประมาณ 500 คน ขณะนี้ได้ปูเสื่อสานไว้พร้อมแล้ว นอกจากนี้ยังได้เตรียมพัดลม เครื่องนอน หมอน มุ้ง รวมถึงอาหารไว้อย่างเพียงพอแก่จำนวนผู้ประสบภัย และสำรองห้องประชุมชั้น 2 ของอาคารสระว่ายน้ำติดกับโรงยิม ที่รองรับคนได้ประมาณ 300 คน ไว้อีกด้วย หากเกิดกรณีน้ำขึ้นสูงมายังพื้นที่ชั้น 1 ของโรงยิม
นอกจากนี้ มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ฉีดพ่นยากันยุงรอบพื้นที่ แต่เบื้องต้นยังมั่นใจว่า ชั้น 1 ของโรงยิม น้ำไม่น่าจะท่วมถึงเนื่องจากจุดที่ตั้งของโรงยิมเป็นพื้นที่ยกสูง อีกทั้งตั้งแต่ย้ายกระทรวงสาธารณสุข มาที่ จ.นนทบุรี เกือบ 20 ปีแล้วไม่เคยมีน้ำท่วมถึงแม้แต่ครั้งเดียว
สำหรับภายในศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงในศูนย์กีฬา ของ สธ.นั้นได้มี ประชาชนและเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ (ขรก.) สธ.พร้อมญาติเดินทางมาลงทะเบียนในศูนย์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีมาลงทะเบียนทั้งจองพื้นที่ ทั้งพักราว 300 คน จากความสามารถในการรองรับทั้งหมด 1,000 คน โดยส่วนมากอพยพมาจากพื้นที่ อ.ท่าอิฐ และ อ.บางบัวทอง
น.ส.สินีนุช สหัสรังสินี อายุ 21 ปี ชาวหมู่บ้านชลดา บางบัวทอง จ.นนทบุรี กล่าวว่า ตนได้อพยพออกจากหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ต.ค.โดยมีญาติซึ่งทำงานใน สธ.ช่วยลงทะเบียนจองที่พักให้ ซึ่งตนยอมรับว่า การได้หนีน้ำมาอยู่ที่ศูนย์อพยพนั้นถือว่ามีบริการที่อำนวยความสะดวกอย่างดี อาหารน้ำและบริการด้านการแพทย์อย่างครบถ้วน เพราะน้ำในหมู่บ้านท่วมสูงสุดที่ระดับคอ และต่ำสุดระดับหัวเข่า ตนจึงตัดสินใจหยิบทรัพย์สินส่วนตัวที่มีเพียงแค่กระเป๋าเงินกับโทรศัพท์เคลื่อนที่และเสื้อผ้าบางส่วนเท่านั้น ซึ่งหากน้ำลดก็จะกลับไปที่หมู่บ้านโดยเร็ว
“การอยู่ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของเรา เพราะเจ้าหน้าที่บริการอย่างดี หลังจากที่ผู้นำในหมู่บ้านและกรรมการในหมู่บ้านละเลยมาตลอด เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมมานั้นชาวบ้านต่างแตกตื่นและหนีออกนอกพื้นที่กันหมด เนื่องจากน้ำขึ้นจากรดับเอวถึงระดับคอแค่ในเวลา 2 ชั่วโมง ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านเคยประกาศไว้ว่าจะไม่ท่วม” น.ส.สินีนุช กล่าว
สำหรับที่กระทรวงสาธารณสุข บริเวณศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัด สธ.ได้มีการเอาถุงพลาสติกมาห่อหุ้มพื้นที่อาคาและนำถุงทรายมากั้นน้ำไว้แล้ว จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า เป็นการป้องกันไว้ก่อนเพราะหากศูนย์ฯล่มการจัดทำระบบข้อมูลของ สธ.อาจจะได้รับผลกระทบ ดังนั้น ต้องป้องกันไว้ก่อน
