ผู้แสวงบุญชาวไทยเสียชีวิตกะทันหัน 2 รายจากเหตุหัวใจวายเฉียบพลัน ขณะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2554
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า จากการที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญที่ได้เดินไปประกอบพิธฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2554 ซึ่งมีจำนวน 12,974 คน โดยเริ่มเดินทางเที่ยวบินแรก วันที่ 26 กันยายน 2554 และเที่ยวสุดท้ายวันที่ 29 ตุลาคม 2554 ในปีนี้จะมีผู้แสวงบุญทั่วโลกกว่า 200 ประเทศ เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์กว่า 3 ล้านคน ทั้งนี้ นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) ได้รับรายงานและแจ้งให้ตนทราบว่า ขณะนี้มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตอย่างกะทันหัน จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายมะรอเซะ กะเมิง อายุ 59 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส เดินทางไปกับบริษัท อัสลามทราเวิลแอนด์ทัวร์ ซึ่งสาเหตุการชีวิตเนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ส่วนอีกรายคือ นายตุแวโซะ ตุแวบือซา อายุ 76 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปกับบริษัท เอส.เอ็น.ธุรกิจสัมพันธ์ ซึ่งเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว ที่เมืองมะดีนะห์
นางสุกุมล กล่าวว่า ฮัจญ์ เป็นศาสนกิจภาคบังคับที่มีความสำคัญยิ่งในหลักการของศาสนา ซึ่งผู้นับถือศาสนา อิสลามจากทุกมุมโลกต่างต้องให้ความสำคัญต่อการไปประกอบพิธีฮัจย์ ให้ได้อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต ทุกปีที่ผ่านมาจะมีผู้แสวงบุญเสียชีวิต จากการเดินทางไปแสวงบุญ เนื่องจากผู้แสวงบุญจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สภาพร่างกายและสุขภาพจึงไม่ค่อยแข็งแรง เมื่ออยู่ในสภาพแออัด มักเจ็บป่วยง่าย แต่การเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาระเบียตามหลักของศาสนาอิสลาม หากเสียชีวิตที่นั่น จะได้เดินทางไปพบกับพระศาสดาของศาสนาอิสลามคือพระอัลเลาะห์ สำหรับมาตรการการดูแลผู้แสวงบุญนั้น มีแพทย์และพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวน 25 คน ที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะดูแลรักษาผู้แสวงบุญอย่างเต็มที่ หากเกิดอาการเจ็บป่วย จะนำส่งโรงพยาบาลและให้การรักษาทันที
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมศาสนา พบว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา จำนวนผู้แสวงบุญที่เสียชีวิตจากการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนทั้งสิ้น 16 ราย ดังนี้ จังหวัดปัตตานี 3 ราย ยะลา 2 ราย นราธิวาส 5 ราย สงขลา 5 ราย และสตูล 1 ราย
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า จากการที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญที่ได้เดินไปประกอบพิธฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2554 ซึ่งมีจำนวน 12,974 คน โดยเริ่มเดินทางเที่ยวบินแรก วันที่ 26 กันยายน 2554 และเที่ยวสุดท้ายวันที่ 29 ตุลาคม 2554 ในปีนี้จะมีผู้แสวงบุญทั่วโลกกว่า 200 ประเทศ เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์กว่า 3 ล้านคน ทั้งนี้ นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) ได้รับรายงานและแจ้งให้ตนทราบว่า ขณะนี้มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตอย่างกะทันหัน จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายมะรอเซะ กะเมิง อายุ 59 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส เดินทางไปกับบริษัท อัสลามทราเวิลแอนด์ทัวร์ ซึ่งสาเหตุการชีวิตเนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ส่วนอีกรายคือ นายตุแวโซะ ตุแวบือซา อายุ 76 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปกับบริษัท เอส.เอ็น.ธุรกิจสัมพันธ์ ซึ่งเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว ที่เมืองมะดีนะห์
นางสุกุมล กล่าวว่า ฮัจญ์ เป็นศาสนกิจภาคบังคับที่มีความสำคัญยิ่งในหลักการของศาสนา ซึ่งผู้นับถือศาสนา อิสลามจากทุกมุมโลกต่างต้องให้ความสำคัญต่อการไปประกอบพิธีฮัจย์ ให้ได้อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต ทุกปีที่ผ่านมาจะมีผู้แสวงบุญเสียชีวิต จากการเดินทางไปแสวงบุญ เนื่องจากผู้แสวงบุญจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สภาพร่างกายและสุขภาพจึงไม่ค่อยแข็งแรง เมื่ออยู่ในสภาพแออัด มักเจ็บป่วยง่าย แต่การเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาระเบียตามหลักของศาสนาอิสลาม หากเสียชีวิตที่นั่น จะได้เดินทางไปพบกับพระศาสดาของศาสนาอิสลามคือพระอัลเลาะห์ สำหรับมาตรการการดูแลผู้แสวงบุญนั้น มีแพทย์และพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวน 25 คน ที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะดูแลรักษาผู้แสวงบุญอย่างเต็มที่ หากเกิดอาการเจ็บป่วย จะนำส่งโรงพยาบาลและให้การรักษาทันที
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมศาสนา พบว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา จำนวนผู้แสวงบุญที่เสียชีวิตจากการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนทั้งสิ้น 16 ราย ดังนี้ จังหวัดปัตตานี 3 ราย ยะลา 2 ราย นราธิวาส 5 ราย สงขลา 5 ราย และสตูล 1 ราย
