รพ. พระนั่งเกล้าฯ ยันยังรับน้ำได้ กังวล 15 ต.ค.น้ำหนุนบวกมวลน้ำจากปทุมธานี ผอ.บำราศ ฯ เผย รับส่งต่อผู้ป่วยวิกฤติจาก พระนั่งเกกล้าแล้ว 20 ราย ขณะที่ "วิทยา" เตรียมเปิดอาคารอาคารกีฬาในร่มของกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นศูนย์อพยพที่ 2
วันนี้ (14 ต.ค.) นพ.ธวัชชัย วงค์คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)พระนั่งเกล้า จ.นนบุรี กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม หลังมีข่าวน้ำทะลักพื้นที่ปทุมธานี ว่า ขณะนี้สถานการณ์คันกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาของโรงพยาบาลยังสามารถรับมือได้อยู่ แต่ที่น่ากังวลที่สุดคือ ในวันที่ 15 ต.ค. จะมีน้ำทะเล หนุนสูงที่สุด ประกอบกับมวลน้ำเริ่มมาจากจ.ปทุมธานี จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้เริ่มทยอยย้ายผู้ป่วยหนัก และเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลไปที่ไอซียู โรงพยาบาลบำราศนราดูร แล้ว โดยเหลือผู้ป่วยหนักอยู่ในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าอีกกว่า 10 กว่ารายเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าหากไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้ จะสามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยทั่วไปโรงพยาบาลยังเปิดให้บริการตามปกติ
พญ.จริยา แสงสัจจา ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า จากการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) นนทบุรี ได้ประชุมตัวแทน รพ.ในพื้นที่ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ตั้งแต่ระยะแรกนั้น ขณะนี้ทาง รพ.บำราศนราดูร ได้รับการประสานงานโดยตรงจากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ให้รองรับผู้ป่วยภาวะวิกฤต อาทิ ใส่เครื่องช่วยหายใจ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยไอซียู เฉพาะแผนกอายุรกรรมเท่านั้น โดยรับมาแล้ว 20 รายจากความจุทั้งหมดที่โรงพยาบาลสามารถรับได้คือ 40 ราย ซึ่งทางโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้สนับสนุนแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาปฏิบัติงานเพื่อดูแลผู้ป่วยในสังกัดด้วย แต่เครื่องมือยังคงเป็นของโรงพยาบาลบำราศนราดูร
พญ.จริยา กล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมพร้อมที่โรงพยาบาลนั้น ถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงน้อยที่สุด สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมเสมอ คือ อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งทุกปีโรงพยาบาลบำราศนราดูร ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมเลย แต่ก็มีการเตรียมป้องกัน เพื่อความไม่ประมาท ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลไม่ได้รับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลที่อื่น เนื่องจากได้มีการประสานความช่วยเหลือโรงพยาบาลเฉพาะพื้นที่นนทบุรี โดยรับเพียง รพ.พระนั่งเกล้าเท่านั้น
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้สัมภาษณ์เรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า จากปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี และ กทม. ซึ่งจะต้องรองรับน้ำจากภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ดังนั้น สธ.จึงได้เตรียมความพร้อมรองรับหากเกิดภาวะฉุกเฉิน ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ โดยจะเปิดอาคารอาคารกีฬาในร่มหรือโรงยิมของกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นศูนย์อพยพที่ 2 ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้ามาพักพิงชั่วคราวได้ หากจุดอพยพที่สนามกีฬาอบจ.ที่จังหวัดนนทบุรีไม่เพียงพอ ซึ่งสามารถจุได้ประมาณ 500 คน ขณะนี้ได้เตรียมการทั้งเรื่องที่นอน มุ้ง อาหาร น้ำดื่มและสุขาเคลื่อนที่ไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานกับ รพ.ศรีธัญญา เพื่อบริการเรื่องการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งเปรื่มเปิดให้บริกาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถเข้ามาพักอาศัยได้
วันนี้ (14 ต.ค.) นพ.ธวัชชัย วงค์คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)พระนั่งเกล้า จ.นนบุรี กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม หลังมีข่าวน้ำทะลักพื้นที่ปทุมธานี ว่า ขณะนี้สถานการณ์คันกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาของโรงพยาบาลยังสามารถรับมือได้อยู่ แต่ที่น่ากังวลที่สุดคือ ในวันที่ 15 ต.ค. จะมีน้ำทะเล หนุนสูงที่สุด ประกอบกับมวลน้ำเริ่มมาจากจ.ปทุมธานี จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้เริ่มทยอยย้ายผู้ป่วยหนัก และเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลไปที่ไอซียู โรงพยาบาลบำราศนราดูร แล้ว โดยเหลือผู้ป่วยหนักอยู่ในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าอีกกว่า 10 กว่ารายเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าหากไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้ จะสามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยทั่วไปโรงพยาบาลยังเปิดให้บริการตามปกติ
พญ.จริยา แสงสัจจา ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า จากการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) นนทบุรี ได้ประชุมตัวแทน รพ.ในพื้นที่ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ตั้งแต่ระยะแรกนั้น ขณะนี้ทาง รพ.บำราศนราดูร ได้รับการประสานงานโดยตรงจากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ให้รองรับผู้ป่วยภาวะวิกฤต อาทิ ใส่เครื่องช่วยหายใจ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยไอซียู เฉพาะแผนกอายุรกรรมเท่านั้น โดยรับมาแล้ว 20 รายจากความจุทั้งหมดที่โรงพยาบาลสามารถรับได้คือ 40 ราย ซึ่งทางโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้สนับสนุนแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาปฏิบัติงานเพื่อดูแลผู้ป่วยในสังกัดด้วย แต่เครื่องมือยังคงเป็นของโรงพยาบาลบำราศนราดูร
พญ.จริยา กล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมพร้อมที่โรงพยาบาลนั้น ถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงน้อยที่สุด สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมเสมอ คือ อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งทุกปีโรงพยาบาลบำราศนราดูร ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมเลย แต่ก็มีการเตรียมป้องกัน เพื่อความไม่ประมาท ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลไม่ได้รับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลที่อื่น เนื่องจากได้มีการประสานความช่วยเหลือโรงพยาบาลเฉพาะพื้นที่นนทบุรี โดยรับเพียง รพ.พระนั่งเกล้าเท่านั้น
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้สัมภาษณ์เรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า จากปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี และ กทม. ซึ่งจะต้องรองรับน้ำจากภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ดังนั้น สธ.จึงได้เตรียมความพร้อมรองรับหากเกิดภาวะฉุกเฉิน ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ โดยจะเปิดอาคารอาคารกีฬาในร่มหรือโรงยิมของกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นศูนย์อพยพที่ 2 ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้ามาพักพิงชั่วคราวได้ หากจุดอพยพที่สนามกีฬาอบจ.ที่จังหวัดนนทบุรีไม่เพียงพอ ซึ่งสามารถจุได้ประมาณ 500 คน ขณะนี้ได้เตรียมการทั้งเรื่องที่นอน มุ้ง อาหาร น้ำดื่มและสุขาเคลื่อนที่ไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานกับ รพ.ศรีธัญญา เพื่อบริการเรื่องการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งเปรื่มเปิดให้บริกาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถเข้ามาพักอาศัยได้