ร.ร.สพฐ.ปรับตัวภาวะน้ำท่วมทำ “โรงเรียนริมถนน” ให้ นร.ได้รับการศึกษาต่อเนื่อง ขณะที่ “วรวัจน์” ประชุมทางไกล ผอ.สพท.กำชับติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ชี้ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนให้ของบกลาง ด้าน เลขาธิการ กพฐ.ยันเปิดเทอม 2 กำหนดเดิม 31 ต.ค.ให้ ร.ร.ที่ไม่ทันสอบปลายภาคเทอม 1 ใช้เวลา 2 สัปดาห์แรกที่เปิดเรียนดำเนินการให้แล้วเสร็จ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมทางไกล (Conference) กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ร่วมกับ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า ได้กำชับ ผอ.สพท.ทุกเขตให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เขตพื้นที่ใดที่คิดว่าน้ำไม่ท่วม แต่อยู่ใกล้พี่ที่น้ำท่วมก็ขอให้ระมัดระวัง เตรียมการวางแผนอพยพเคลื่อนย้ายให้ดี ทั้งนี้ ได้แจ้ง ผอ.สพท.ด้วยว่า หากมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำ ท่วมนั้น ให้เสนอขอใช้งบกลางได้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลเรื่องการเรียนการสอนนั้น ทราบว่า ทุกโรงเรียนมีการเตรียมความพร้อม และใช้โอกาสที่ชาวบ้านอพยพครอบครัว มาพักในเต็นท์ริมถนน ทำการเรียนการสอนในรูปแบบโรงเรียนริมถนน เป็นการชั่วคราวเพื่อให้เด็กได้รับการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง บางแห่งก็ใช้โอกาสนี้ให้นักเรียนอ่านหนังสือเตรียมตัวไว้ก่อน
ด้าน นายชินภัทร กล่าวว่า ในภาคเรียนที่ 2 จะเปิดเทอมในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งได้ให้อำนาจ ผอ.สพท.ที่ได้รับผลกระทลพิจารณากำหนดเปิดภาคเรียนตามความเหมาะสม แต่ภาพรวมยังยึดกำหนดเปิดภาคเรียนเดิมวันที่ 31 ตุลาคม ทั้งนี้ โรงเรียนใดที่ต้องปิดเรียนก่อนโดยที่ยังไมได้จัดสอบปลายภาคเรียนที่ 1 นั้น ก็ได้กำชับว่าเมื่อเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 ใช้ช่วงเวลา 2 สัปดาห์แรกในการสอนเสริมและจัดสอบให้เรียบร้อย
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมทางไกล (Conference) กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ร่วมกับ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า ได้กำชับ ผอ.สพท.ทุกเขตให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เขตพื้นที่ใดที่คิดว่าน้ำไม่ท่วม แต่อยู่ใกล้พี่ที่น้ำท่วมก็ขอให้ระมัดระวัง เตรียมการวางแผนอพยพเคลื่อนย้ายให้ดี ทั้งนี้ ได้แจ้ง ผอ.สพท.ด้วยว่า หากมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำ ท่วมนั้น ให้เสนอขอใช้งบกลางได้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลเรื่องการเรียนการสอนนั้น ทราบว่า ทุกโรงเรียนมีการเตรียมความพร้อม และใช้โอกาสที่ชาวบ้านอพยพครอบครัว มาพักในเต็นท์ริมถนน ทำการเรียนการสอนในรูปแบบโรงเรียนริมถนน เป็นการชั่วคราวเพื่อให้เด็กได้รับการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง บางแห่งก็ใช้โอกาสนี้ให้นักเรียนอ่านหนังสือเตรียมตัวไว้ก่อน
ด้าน นายชินภัทร กล่าวว่า ในภาคเรียนที่ 2 จะเปิดเทอมในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งได้ให้อำนาจ ผอ.สพท.ที่ได้รับผลกระทลพิจารณากำหนดเปิดภาคเรียนตามความเหมาะสม แต่ภาพรวมยังยึดกำหนดเปิดภาคเรียนเดิมวันที่ 31 ตุลาคม ทั้งนี้ โรงเรียนใดที่ต้องปิดเรียนก่อนโดยที่ยังไมได้จัดสอบปลายภาคเรียนที่ 1 นั้น ก็ได้กำชับว่าเมื่อเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 ใช้ช่วงเวลา 2 สัปดาห์แรกในการสอนเสริมและจัดสอบให้เรียบร้อย
