กทม.ประสานกรมชลฯช่วยหนองจอกทำคันดินกั้นน้ำชั่วคราว

กทม.ประสานกรมชลฯ ทำคันดินกั้นน้ำชั่วคราว บรรเทาน้ำท่วมพื้นที่หนองจอก “สุขุมพันธุ์” ยันมั่นใจยังรับมือสถานการณ์น้ำได้

วันนี้ (6 ต.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะ ลงพื้นที่เขตหนองจอก เพื่อตรวจสภานการณ์น้ำ หลังจากที่ได้รับรายงานว่า พื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่งโดยเฉพาะชุมชนฮาซานุดดีน หมู่ 5 แขวงหนองจอก ซึ่งมีประชาชนอยู่อาศัยจำนวน 90 ครัวเรือน และชุมชนเกาะกลางพัฒนาหมู่ 9 แขวงกระทุ่มลาย จำนวน 220 ครัวเรือน โดยผู้ว่าฯ กทม.ได้มอบถุงยังชีพ ยารักษาโรค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้ง 2 ชุมชนได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในคลองแสนแสบและคลองนครเนื่องเขต เอ่อล้นเข้ามาท่วมในพื้นที่ นอกจากนี้ พื้นที่ทางการเกษตรยังได้รับความเสียหายประมาณ 5,000 พันไร่ ในเบื้องต้นทางสำนักงานเขตได้ให้ความช่วยเหลือ โดยได้นำกระสอบทรายไปเสริมเป็นคันกั้นน้ำ และทำสะพานไม้ทางเดินชั่วคราว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำเหนือ รวมถึงน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และปริมาณน้ำฝนที่ยังตกหนักอยู่ โดยมาตรการระยะสั้นทางด้านตะวันออก กทม.ได้ประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ และการทำแนวคันดินตั้งแต่แนวคลอง 14 จังหวัดปทุมธานี จนสุดระยะของเขตหนองจอก นอกจากนี้ จะเร่งระบายน้ำในพื้นที่ออกทางประตูระบายน้ำของกรมชลประทานคลองนครเนื่องเขต คลองลำประทิว และคลองลาดกระบัง ออกทางจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนพื้นที่ชั้นในกทม.ในขณะนี้ยังมั่นใจว่า สามารถรับสถานการณ์น้ำได้แต่ก็ไม่ควรประมาท โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (7ต.ค.) จะมีการประชุมเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่หนองจอกอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการสอบถามชาวบ้านเกาะกลาง ทราบว่า ระดับน้ำในวันนี้คงที่แต่เมื่อวานที่น้ำท่วมที่ถนนแต่เมื่อฝนตกหนักในช่วงค่ำก็ทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมในตัวบ้านซึ่งบ้านที่อยู่ริมตลิ่งระดับน้ำจะอยู่ที่หน้าอก

วันเดียวกัน นางสาวอารีย์ วงศ์นพรัตน์เลิศ ผู้อำนวยการเขตดุสิต กทม.ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ยารักษาโรคพร้อมให้กำลังใจกับชาวชุมชุมเขียวไข่กา และชุมชนสีคาม ที่ประสบอุทกภัย เนื่องจากอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ โดยชุมชนเขียวไข่กา มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 86 ครัวเรือน ชุมชนสีคาม มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 6 ครัวเรือน ซึ่งทาง กทม.ได้จัดหาที่พักชั่วคราวไว้รองรับหากประชาชนต้องการย้ายที่อยู่อาศัย ม.โดยสามารถเข้าไปพักได้ที่โรงเรียนวัดจันทร์สโมสร โรงเรียนเทวราชกุญชร และโรงเรียนราชผาติการาม แต่หากประชาชนไม่อยากอยู่ไกลบ้านทางเขตก็จะจัดหาเต็นท์ให้อยู่ใกล้บ้าน ตรงบริเวณการไฟฟ้าสามเสน และที่ทรัพย์สินฯ

อย่างไรก็ตาม กทม.กำลังดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมขนาดความสูง 3 เมตรเพิ่มเติมอีก 115 เมตร จากเดิมที่มีแนวคันกั้นน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท่าเรือเขียวไข่กา ถึงที่ดินคลองขุดของกรมชลประทาน ซึ่งมีความยาว 193 เมตร แต่แนวป้องกันน้ำท่วมดังกล่าวไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากปลายถนนสามเสน 21 ยังไม่มีแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร เมื่อเข้าฤดูน้ำเหนือหลากและน้ำทะเลหนุนสูงทำให้เกิดปัญหาน้ำหลากเข้าท่วมโรงเลื่อยจักรย่งย้วนต่อเนื่องจากชุมชนเขียวไข่กา ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมใหม่ได้แล้วเสร็จเดือนมกราคม 2555