ปลัดแรงงานเผยอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดกว่า 50 จังหวัดหนุนปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเกินกว่า 40% ในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ชงเข้าบอร์ดค่าจ้างกลาง 5 ต.ค.นี้ พร้อมเสนอมาตรการอุ้มเอสเอ็มอีทั้งให้ลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า นำส่วนต่างค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น-ค่าสวัสดิการอาหารและพาหนะมาขอลดหย่อนภาษี ได้ 2 เท่า ชงเข้าคณะทำงานร่วม 3 กระทรวงเร็วๆ นี้
วันนี้ (30 ก.ย.) นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานของกระทรวงแรงงานเพื่อผลักดัน นโยบายการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทตามนโยบายรัฐบาลว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาที่ประชุมได้รับรายงานผลการประชุมของคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งทุกจังหวัดมีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ โดยในจำนวนนี้มีคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดกว่า 50 จังหวัดหรือคิดเป็น 70% ซึ่งได้เห็นชอบให้ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเกินกว่า 40% ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละจังหวัดในวันที่ 1 มกราคม ปี พ.ศ. 2555 ทั้งนี้ ตนจะนำข้อมูลนี้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลางในวันที่ 5 ต.ค.นี้
นพ.สมเกียรติกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ได้แก่ 1.เสนอรัฐบาลให้ปรับลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอี 2.ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถนำส่วนต่างของการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาทมาขอลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เช่น แต่เดิมจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 250 บาท เมื่อปรับเพิ่มค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาท ก็สามารถนำส่วนต่างของค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอีก 50 บาทมาขอลดหย่อนภาษีได้ 100 บาท และ 3.เสนอให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถนำค่าสวัสดิการ ได้แก่ ค่าอาหาร และค่าพาหนะมาขอลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
“เร็วๆ นี้ผมจะนำมาตรการเหล่านี้ไปเสนอที่ประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้น ต่ำเป็นวันละ 300 บาทต่อไป” ปลัดแรงงานกล่าว
