xs
xsm
sm
md
lg

สปสช.ทุ่มงบ 22 ล.ร่วมมือกรมจิต พัฒนาระบบ Call Center ปรึกษาปัญหาฟรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ระหว่างลงนามร่วมมือ
สปสช.ทุ่มงบ กว่า 22 ล้าน ร่วมมือโครงการบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชม.กับกรมจิต บริการรับปรึกษาปัญหาแก่คนไทย

วันนี้ (28 ก.ย.) นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพในปัจจุบันซับซ้อนมากขึ้น และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วระบบบริการสุขภาพ จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงการให้คำปรึกษานับเป็นบริการด้านจิตใจและสังคมที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของบริการสุขภาพจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ปัญหาสุขภาพได้เปลี่ยนจากโรคติดเชื้อมาเป็นโรคเรื้อรัง และความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมสุขภาพระบบการให้คำปรึกษา จึงจำเป็นต้องมีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังร้ายแรง และมีความสามารถที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่สำคัญ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา พฤติกรรมทางเพศ ปัญหาความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้าซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ และปัญหาส่วนที่ 2 คือ ในการเข้าถึงบริการนั้นกรมสุขภาพจิต ร่วมกับโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ประเมินว่า มีผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญทั้ง 8 กลุ่ม (ความผิดปกติทางจิตเวชจากแอลกอฮอล์ ความผิดปกติทางจิตเวชจากสารเสพติดโรคซึมเศร้า โรคจิต ความผิดปกติทางพัฒนาการและพฤติกรรมในเด็กโรคลมชัก โรคสมองเสื่อม การทำร้ายตนเองและฆ่าตัวตาย)จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือประมาณ 10 ล้านคนทั่วประเทศ แต่เข้าถึงบริการเพียง 8 แสนคนทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 8

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า เนื่องจากการกระจายตัวของหน่วยงานบริการด้านสุขภาพจิตในภูมิภาคตลอดจนบุคลากรด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะจิตแพทย์ พยาบาลจิตเวชนักจิตวิทยาคลินิก นักสังคมสงเคราะห์จิตเวช นักกิจกรรมบำบัดและบุคลากรด้านวิชาชีพอื่นๆ ที่จำเป็น สำหรับรองรับปัญหาด้านสุขภาพจิตมีจำนวนจำกัดไม่เพียงพอต่อการให้บริการ จึงส่งผลให้ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตไม่สามารถเข้าถึงบริการที่เหมาะสม ส่งผลเสียต่อระบบสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ของประเทศอย่างมหาศาล เพราะปัญหาสุขภาพจิตมิได้ส่งผลกระทบต่อเฉพาะตัวผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงญาติ ผู้ดูแล และบุคคลอื่นในสังคม ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตได้ริเริ่มจัดบริการให้การปรึกษาทางโทรศัพท์ ผ่านสายด่วนสุขภาพจิต (HotLine 1323) เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่มีความเครียด ความทุกข์ใจไม่สบายใจ และพบว่า สถิติจากการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ผ่านสายด่วน 1323 ของกรมสุขภาพจิต ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มียอดผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 352,886 ราย ปัญหาที่พบมากที่สุดเป็นปัญหาด้านสุขภาพจิตและโรคทางจิตเวชซึ่งการจัดบริการดังกล่าวยังไม่มีงบประมาณรองรับประกอบกับกรมสุขภาพจิตมีความต้องการที่จะพัฒนาระบบให้คำปรึกษาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายผู้ป่วยและระดับความต้องการ เช่น ผู้ที่มีความวิตกกังวลจากปัญหาโรคทางกายเรื้อรัง โรคร้ายแรงอย่างผู้ป่วย HIV โรคมะเร็ง และกลุ่มผู้ป่วยที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพ จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อที่จะพัฒนาโครงการบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชม.โดยทำเป็นระบบ Call Center ที่จะให้บริการให้คำปรึกษาทั่วไป และส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญกรณีที่เป็นการให้คำปรึกษาที่ซับซ้อนขึ้นโดยสามารถที่จะให้บริการในระบบใหม่ได้ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2555

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในแง่สิทธิประโยชน์ในการรับบริการปรึกษาและบริการให้คำปรึกษาเป็นบริการที่เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบ UC ที่ใช้กับผู้ป่วยกลุ่มต่างๆ เช่น HIV มะเร็ง สุขภาพกาย และสุขภาพจิต อยู่แล้ว เช่น ในปัจจุบัน ผู้ป่วย HIV ได้รับบริการให้คำปรึกษาโดยอาสาสมัคร (VCT ; Volunteer Counseling and Testing) จากความร่วมมือของ สปสช.และกรมสุขภาพจิตในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชน หรือผู้ป่วยระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถจะเข้าถึงบริการปรึกษาที่มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่มีความเครียด ความทุกข์ใจ ไม่สบายใจรวมทั้งยังสามารถที่จะช่วยป้องกันการฆ่าตัวตายจากโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตเวชอื่นๆ ได้ 28 ก.ย.2554
กำลังโหลดความคิดเห็น