‘โครงการกรุงเทพฯเดินสบาย’ นำร่องพัฒนาทางเท้าสาธารณะเพื่อประชาชน เดินหน้าประมูลงานศิลป์ ระดมทุนปรับปรุงทางเดินปลอดภัย ย่านสยามแสควร์
แม้กรุงเทพมหานครจะน่าอยู่ในสายตาชาวต่างชาติจนได้รับการเทคะแนนให้เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก โดยสามารถคว้ารางวัลมาเป็นการันตีถึง 3 ปีซ้อนจากนิตยสารท่องเที่ยวของสหรัฐอเมริกา แต่ก็มีชาวกรุงเทพฯจำนวนไม่น้อยที่ต่างเห็นว่า กรุงเทพฯจะน่าพิสมัยกว่านี้ หากการสัญจรบนทางเท้าสาธารณะ จะได้รับการดูแลให้เป็นไปอย่างสะดวกกายสบายใจมากกว่าสภาพที่เป็นอยู่ปัจจุบัน เพราะนอกจากทางเดินจะขรุขระ บ้างก็พบฝาท่อชำรุด ยากต่อการสัญจรและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งแล้ว บางแห่งยังเต็มไปด้วยหาบเร่แผงลอยกีดขวางทาง ยังไม่นับเรื่องมลภาวะทางเสียง อากาศ และความแออัด เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น อันล้วนเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางสัญจรสำหรับประชาชนคนทั่วไปโดยเฉพาะคนพิการ
ด้วยความตั้งใจจะอาสาเข้าช่วยแก้ไขปัญหาการสัญจรบนทางเท้าในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มคนที่อยากเห็นกรุงเทพน่าอยู่ อันประกอบไปด้วยหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์การผู้พิการสากลประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ชมรมหรี่เสียงกรุงเทพฯ กลุ่มกรุงเทพฯเดินสบาย ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สมาคมสถาปนิกสยาม และนิตยสาร art4d จึงได้รวมตัวกันภายใต้ชื่อว่า “กลุ่มกรุงเทพฯเดินสบาย” ริเริ่ม โครงการกรุงเทพฯเดินสบาย (Bangkok Sabai Walk) ขึ้น พร้อมกับแนวคิดที่จะพัฒนาทางเดินเท้าสาธารณะที่สะอาด ปลอดภัย และสะดวกสบายต่อ ผู้เดินเท้า ทั้งต่อบุคคลทั่วไป และผู้พิการ รวมถึงปรับปรุงและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมบริเวณทางเดินเท้าให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี โดยนำร่องจุดแรกที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม เพื่อเป็นตัวอย่างให้พื้นที่อื่นๆ ในกรุงเทพฯ ต่อไป
อาจารย์อรยา สูตะบุตร ผู้ประสานงานโครงการกรุงเทพฯเดินสบาย กล่าวถึงภาพรวมของ โครงการ ว่า โครงการนี้เริ่มต้นมาจากคนที่ใช้ทางเท้าบริเวณสยามมารวมตัวกัน ทั้งที่เป็น สถาปนิก วิศวกร นักศึกษา อาจารย์ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่าทางเท้าเมืองไทยอยู่ในสภาพที่แย่ และการแก้ปัญหาของภาครัฐอาจไม่ทันท่วงทีและยังไม่ใช่วิธีการที่ยังยืน ที่สำคัญประชาชนยังไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน การจัดประกวดการออกแบบทางเท้าในฝันของคนกรุงเทพฯ จึงได้เกิดขึ้น โดยยึดตามหลักแนวคิดที่ว่า Universal Asset คือพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ แม้แต่คนพิการที่ใช้
รถเข็นและคนตาบอด
ทั้งนี้ เพื่อให้โครงการเป็นรูปเป็นร่าง ตลอดปี 2553 ที่ผ่านมา โครงการกรุงเทพเดินสบายจึงได้มีการจัดประกวดการออกแบบทางเท้าในฝันของคนกรุงเทพฯ ขึ้น ภายใต้ความร่วมมือระหว่างประชาชนและหน่วยงานรัฐ กรุงเทพมหานคร รวมทั้งเอกชน เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออกแบบทางเท้าให้สร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากพื้นที่ทางเท้าใต้สถานีบีทีเอส สยาม และทางเท้าสองฝั่งถนนพระราม 1 ช่วงระหว่างถนนพญาไทกับถนนอังรีดูนังต์ ซึ่งมีผู้สัญจรไปมา เป็นจำนวนมาก
“ด้วยแนวคิดดังกล่าว แบบที่ส่งประกวดจะต้องสามารถนำมาใช้จริงได้ โดยใช้วัสดุที่มาจากพลังงานทดแทนหรือเป็นวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ขณะเดียวกันต้องทนทานและง่ายต่อการดูแลรักษาในระยะยาว ช่วยลดมลภาวะต่างๆ โดยรอบ และปรับปรุงทัศนียภาพ
ท้ายสุดก็ได้ผลงานแบบร่างที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อนำมาปรับปรุงทางเดินเท้ามาจากงานของทีม Green Attack จากบริษัท AXIS ซึ่งสามารถออกแบบได้ใกล้เคียงกับโจทย์มากที่สุด แบบของพวกเขา คือ ทำให้ทางเท้ากว้างเสมอกัน พื้นผิวอยู่ในระดับเดียวกัน ย้ายสิ่งขีดขว้างที่ไม่จำเป็นออกไป มีทางลาดสำหรับรถเข็นหรือจักรยาน มีตุ่มสัณญาณเตือนสำหรับคนตาบอดที่ขอบถนน บริเวณสี่แยกมาบุญครองมีทางม้าลายสำหรับเดินข้าม อีกทั้งเปิดให้มีพื้นที่สำหรับต้นไม้ใหญ่ตลอดสองฝั่งทางเดินเท้า โดยเลือกใช้ต้นไม้ที่โตในแนวดิ่ง เพื่อไม่ไปรบกวนพื้นที่ถนนรวมถึงต้นไม้ขนาดกลางที่มีลักษณะเป็นพุ่ม”
ทั้งนี้ แบบร่างทางเดินเท้านี้จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้พิการได้ดีเพียงใด หนึ่งในผู้ที่สามารถให้คำตอบได้ คือ สุรีพร ยุพา มิยาโมโตะ เจ้าหน้าที่องค์การผู้พิการสากลประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการร่วมตัดสินการออกแบบทางเท้าในฝัน กล่าวในฐานะผู้พิการที่ต้องนั่งรถเข็น ว่า หากมีการปรับปรุงทางเท้าตามแบบร่างจะทำให้การเดินทางบริเวณสยามสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ไม่เพียงแต่สำหรับคนพิการทุกประเภทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนแก่และเด็กด้วย
“ส่วนตัวเคยใช้ทางเท้าบริเวณสยามอยู่แล้ว พบว่า บริเวณนั้นสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพื้นขรุขระและต่างระดับ ต่อให้มีทางลาดสำหรับรถเข็นคนพิการแต่ก็เป็นทางลาดที่ชันมาก จนไม่สามารถเข็นรถด้วยตัวเองได้ต้องให้ผู้อื่นช่วย อีกทั้งการเรียกรถสาธารณะก็เป็นไปด้วยความยาก ลำบาก เนื่องจากบริเวณนั้นไม่มีจุดเรียกแท็กซี่ ทุกวันนี้จะข้ามถนนไปฝั่งสยามต้องใช้ลิฟท์จากรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือถ้าจะข้ามไปฝั่งมาบุญครองก็ต้องอ้อมไปใช้ลิฟท์จากในหอศิลปวัฒนธรรมฯเพื่อเข็นรถบนสกายวอล์ก”
ดังนั้น หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการหาแบบร่างที่เหมาะสมสำหรับทางเดินเท้าบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้ว เพื่อให้โครงการนี้สำเร็จเป็นรูปธรรม ขั้นตอนต่อมาในปีนี้คือการจัด “งานประมูลศิลปะ เพื่อสุนทรียะแห่งการเดินเท้า” เพื่อระดมเงินทุนสำหรับการก่อสร้างและปรับปรุงทางเท้าสาธารณะดังกล่าวตามแผนงานโดยได้รับแรงใจและความร่วมมือจากกลุ่มคนผู้มีใจรักสังคมและชื่นชมศิลปะ
“งบประมาณสำหรับโครงการนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ งบประมาณสำหรับการก่อสร้างปรับปรุง ซึ่งทางจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนที่สองมาจากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อเป็นงบงบประมาณสำหรับแบบร่างที่ลงรายละเอียดทุกตารางนิ้ว ทั้งในแง่พื้นผิว ต้นไม้ โครงสร้างใต้ดิน ฯลฯ จริงๆ เราไม่ได้ต้องการเงินมากมาย แต่เราอยากให้ประชาชนเกิดการมีส่วนร่วมให้กรุงเทพมีมุมเล็กๆ ที่น่าอยู่ขึ้น ซึ่งบางคนอาจจะออกแรง บางคนออกทุนทรัพย์ตามที่มี อย่างน้อยก็เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชุมชน” อ.อรยา ผู้ประสานงานโครงการ กล่าว