“ศศิธารา” ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังพบการส่งมอบครุภัณฑ์ที่จัดซื้อในวงเงิน 1,300 ล้านบาท มีปัญหาไม่สามารถติดตั้งได้หลายรายการ พร้อมประกาศยุติจัดซื้อจัดจ้างวงเงิน 560 ล้านบาท เพื่อเตรียมนำเงินมาสำรองไว้ช่วยสถานศึกษา นศ.ที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รับอนุมัติงบประมาณเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ในวงเงิน 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งระยะที่ 2 แต่เพราะมีข่าวปรากฏเป็นระยะ ว่า การจัดซื้อและการส่งมอบไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น ครุภัณฑ์หลายรายการไม่สามารถติดตั้ง เป็นต้น ดังนั้น ตนจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ 1 ชุด เพื่อลงไปติดตามดูว่าเกิดปัญหาจากจุดใด อาทิ ลงไปรื้อดูรายละเอียดที่ตกลงกันระหว่างทำทีโออาร์ ว่าเป็นเช่นไร ของที่จัดส่งมาตรงตามที่ระบุสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ และให้รายงานผลมายังตน
นอกจากนี้ ในส่วนของงบประมาณวงเงินกว่า 600 ล้านบาท ที่ สอศ.ได้เสนอขอสำนักงบประมาณขอเปลี่ยนแปลงรายการจัดซื้อครุภัณฑ์เป็นรายการ ใหญ่ขึ้น แต่สำนักงบประมาณไม่เห็นด้วย และยืนยันให้ดำเนินการตามระเบียบเดิม โดยที่ผ่านมา สอศ.ก็ได้จัดทำรายละเอียดประกาศขึ้นบนเว็บไซต์ พร้อมเปิดให้แสดงความคิดเห็นด้วย ดังนั้น ตนจึงตัดสินใจยุติการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างรายการครุภัณฑ์ในวงเงิน 560 ล้านบาทดังกล่าวไว้ เพราะสามารถดำเนินการตั้งงบประมาณดำเนินการภายหลังได้ แต่ สอศ.จะนำงบประมาณส่วนนี้มาเตรียมการสำหรับให้การช่วยเหลือสถานศึกษาในสังกัด หรือนักศึกษาต่อไป
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รับอนุมัติงบประมาณเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ในวงเงิน 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งระยะที่ 2 แต่เพราะมีข่าวปรากฏเป็นระยะ ว่า การจัดซื้อและการส่งมอบไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น ครุภัณฑ์หลายรายการไม่สามารถติดตั้ง เป็นต้น ดังนั้น ตนจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ 1 ชุด เพื่อลงไปติดตามดูว่าเกิดปัญหาจากจุดใด อาทิ ลงไปรื้อดูรายละเอียดที่ตกลงกันระหว่างทำทีโออาร์ ว่าเป็นเช่นไร ของที่จัดส่งมาตรงตามที่ระบุสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ และให้รายงานผลมายังตน
นอกจากนี้ ในส่วนของงบประมาณวงเงินกว่า 600 ล้านบาท ที่ สอศ.ได้เสนอขอสำนักงบประมาณขอเปลี่ยนแปลงรายการจัดซื้อครุภัณฑ์เป็นรายการ ใหญ่ขึ้น แต่สำนักงบประมาณไม่เห็นด้วย และยืนยันให้ดำเนินการตามระเบียบเดิม โดยที่ผ่านมา สอศ.ก็ได้จัดทำรายละเอียดประกาศขึ้นบนเว็บไซต์ พร้อมเปิดให้แสดงความคิดเห็นด้วย ดังนั้น ตนจึงตัดสินใจยุติการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างรายการครุภัณฑ์ในวงเงิน 560 ล้านบาทดังกล่าวไว้ เพราะสามารถดำเนินการตั้งงบประมาณดำเนินการภายหลังได้ แต่ สอศ.จะนำงบประมาณส่วนนี้มาเตรียมการสำหรับให้การช่วยเหลือสถานศึกษาในสังกัด หรือนักศึกษาต่อไป