สพฐ.ประเมินมูลค่าความเสียหายเหตุอุทกภัย สูงกว่า 140 ล้านบาท เผยมี นร.เสียชีวิตแล้ว 3 รายบาดเจ็บ 1 “ชินภัทร” ระบุได้ย้ำให้ ร.ร.ปฏิบัติตามคู่มือป้องกันอุทกภัยอย่างเคร่งครัด ด้าน “วรวัจน์” เล็งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของ ร.ร.หลังน้ำลด
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สรุปข้อมูลประมาณการความเสียหายของโรงเรียนซึ่งประสบเหตุอุทกภัย ล่าสุด ณ วันที่ 13 ก.ย.มีโรงเรียนได้รับความเสียหายรวม 635 โรงคิดเป็นมูลค่า 140,846,791 บาท โดยแบ่งเป็น โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) ได้รับความเสียหายจำนวน 583 โรง คิดเป็นมูลค่า 119,722,024 บาท และสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การมัธมศึกษา (สพม.) โรงเรียนได้รับความเสียหาย 52 โรง คิดเป็นมูลค่า 21,124,767 บาท
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการอุทกภัยมีนักเรียนเสียชีวิต 3 ราย คือ นายทัตพล สอนแก้ว นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่ ด.ช.วีระ สายชลวิมาน นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนบ้านสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยทั้ง 2 รายนี้ สพฐ.มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวรายละ 20,000 บาท และด.ช.พิชเญศ แสนว่าง นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านห้วยฮ่อม สพฐ.มอบเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ ด.ญ.หน่อแพ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 11 ปี โรงเรียนบ้านสบเมย มอบเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สพฐ.ได้พิจารณานำเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ถูกน้ำท่วม ชื่อบัญชี “รวมน้ำใจสู่อุทกภัยโรงเรียน” จำนวน 300,000 บาท โดยหักจากยอดเงินคงเหลือในปัจจุบันวันที่ 1 ก.ย.จำนวน 2,2020,000 บาท ส่งไปช่วยเหลือ สพป.ปทุมธานี เขต 1,2 พระนครศรีอยุธยา 1, 2 สิงห์บุรี และอ่างทอง เขตละ 50,000 บาท เพื่อนำไปจัดเตรียมถุงยังชีพมอบให้นักเรียนที่ได้รับผลกระทบต่อไป ทั้งนี้ สพฐ.ได้เน้นย้ำให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติตามตามคู่มือแนวทางปฏิบัติและมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา ฉบับปรังปรุง พ.ศ.2552 อย่างเคร่งครัด ทั้งด้านการเตรียมการก่อนเกิดอุทกภัย ด้านการฏิบัติเมื่อเกิดอุทกภัย และการฟื้นฟูหลังเกิดอุทกภัย
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบให้รัฐมนตรีแต่ละคนรับผิดชอบพื้นที่น้ำท่วมเป็นรายจังหวัด เพราะฉะนั้นหลังจากน้ำลด ตนจะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่าจะฟื้นฟูอย่างไรรวมทั้งตรวจสอบว่าสถานศึกษาแต่ละแห่งต้องปรับปรุงซ่อมแซมและจัดซื้ออุปกรณ์การศึกษาใหม่อย่างไรบ้าง
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สรุปข้อมูลประมาณการความเสียหายของโรงเรียนซึ่งประสบเหตุอุทกภัย ล่าสุด ณ วันที่ 13 ก.ย.มีโรงเรียนได้รับความเสียหายรวม 635 โรงคิดเป็นมูลค่า 140,846,791 บาท โดยแบ่งเป็น โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) ได้รับความเสียหายจำนวน 583 โรง คิดเป็นมูลค่า 119,722,024 บาท และสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การมัธมศึกษา (สพม.) โรงเรียนได้รับความเสียหาย 52 โรง คิดเป็นมูลค่า 21,124,767 บาท
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการอุทกภัยมีนักเรียนเสียชีวิต 3 ราย คือ นายทัตพล สอนแก้ว นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่ ด.ช.วีระ สายชลวิมาน นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนบ้านสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยทั้ง 2 รายนี้ สพฐ.มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวรายละ 20,000 บาท และด.ช.พิชเญศ แสนว่าง นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านห้วยฮ่อม สพฐ.มอบเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ ด.ญ.หน่อแพ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 11 ปี โรงเรียนบ้านสบเมย มอบเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สพฐ.ได้พิจารณานำเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ถูกน้ำท่วม ชื่อบัญชี “รวมน้ำใจสู่อุทกภัยโรงเรียน” จำนวน 300,000 บาท โดยหักจากยอดเงินคงเหลือในปัจจุบันวันที่ 1 ก.ย.จำนวน 2,2020,000 บาท ส่งไปช่วยเหลือ สพป.ปทุมธานี เขต 1,2 พระนครศรีอยุธยา 1, 2 สิงห์บุรี และอ่างทอง เขตละ 50,000 บาท เพื่อนำไปจัดเตรียมถุงยังชีพมอบให้นักเรียนที่ได้รับผลกระทบต่อไป ทั้งนี้ สพฐ.ได้เน้นย้ำให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติตามตามคู่มือแนวทางปฏิบัติและมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา ฉบับปรังปรุง พ.ศ.2552 อย่างเคร่งครัด ทั้งด้านการเตรียมการก่อนเกิดอุทกภัย ด้านการฏิบัติเมื่อเกิดอุทกภัย และการฟื้นฟูหลังเกิดอุทกภัย
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบให้รัฐมนตรีแต่ละคนรับผิดชอบพื้นที่น้ำท่วมเป็นรายจังหวัด เพราะฉะนั้นหลังจากน้ำลด ตนจะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่าจะฟื้นฟูอย่างไรรวมทั้งตรวจสอบว่าสถานศึกษาแต่ละแห่งต้องปรับปรุงซ่อมแซมและจัดซื้ออุปกรณ์การศึกษาใหม่อย่างไรบ้าง
