สารจาก ผอ.ยูเนสโก ย้ำ การรู้หนังสือจำเป็นต่อการสร้างสันติภาพ เผยตัวเลขในปี 52 พบผู้ใหญ่ขาดทักษะการรู้หนังสือพื้นฐานถึง 793 ล้าน คนส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง และยังมีเด็กประถมและมัธยมต้นด้วย ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดคนรุ่นใหม่ไม่รู้หนังสือ ขณะที่ รมว.ศธ.ฝาก กศน.ทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยีทั่วโลกสู่ประชาชน
วันนี้ (8 ก.ย.) ที่ศูนย์การประขุมนานาชาติแกรนด์วิว โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จ.เชียงใหม่ สำนักงานส่งเสริการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ร่วมกับองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (องค์การยูเนสโก) จัดงาน “วันที่ระลึกสากลแห่งการรู้หนังสือ พ.ศ.2554” Intenational Literacy Day 8 September 2011 โดยมีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานกล่าวเปิดงาน มีผู้ร่วมงานกว่า 1,000 คน อาทิ นายเอเตียน เคลมองต์ .รองผู้อำนวยการสำนักงานยูเนสโก สำนักงานส่วนภูมิภาคกรุงเทพ นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ. นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการ กศน. ผู้บริหาร ครู อาจารย์ กศน.และประชาชนทั่วไป
นายเอเตียน อ่านสารของ นางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การยูเนสโก ณ กรุงปารีส เนื่องในวันที่ระลึกแห่งการรู้หนังสือ มีใจความสำคัญ ว่า วันที่ระลึกแห่งการรู้หนังสือในปีนี้นั้น ขอเน้นเป็นพิเศษเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่จำเป็นระหว่างการรู้หนังสือ และสันติภาพ เพราะการรู้หนังสือเป็นพื้นฐานของการศึกษาทั้งมวลและของการเรียนรู้ตลอดชีวิต อีกทั้งการรู้หนังสือจะต้องเกิดขึ้นก่อนเกิดสันติภาพ เพราะการรู้หนังสือจะนำมาใช้ประโยชน์มากมายที่ล้วนส่งผลต่อมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขล่าสุดปี 2552 พบว่า มีผู้ใหญ่จาดทักษะการรู้หนังสือขั้นพื้นฐาน จำนวน 793 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นเด็กหญิงและสตรี มีเด็กวัยนประถมศึกษามากกว่า 67 ล้านคน ที่ไมได้เข้าเรียนและมีเยาวชนวัยมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 72 ล้านคน ที่พลาดสิทธิทางการศึกษา ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดคนรุ่นใหม่ที่ไม่รู้หนังสือ
นายวรวัจน์ กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่ง ว่า ศธ.จะขับเคลื่อนการทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์ 2555 ซึ่งนอกจากเราจะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองก่อนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว จะต้องรู้เขารู้เราในประเทศอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะใน 5 ทวีปสำคัญ คือ ยุโรป อเมริกา ออสเตเลีย เอเชีย และแอฟริกาใต้ ซึ่งกระทรวงฯจะต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และข้อมูลเชิงลึกด้วย ทั้งนี้ เนื่องในวันที่ระลึกแห่งการรู้หนังสือนั้นตนอยากให้ กศน.เข้ามามีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทุกด้าน โดยเฉพาะองค์ความรู้ทางเทคโนโลยี เช่น สื่อ อินเทอร์เน็ต หรือที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพ ที่มีอยู่ทั่วโลกมาสู่ประชาชน
