กระทรวงสาธารณสุข เร่งดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ผู้ประสบภัยร้อยละ 50 ส้วมใช้การไม่ได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูง 1 เมตร แจกถุงดำ 100,000 ใบ ใส่สิ่งปฏิกูล ป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด
วันนี้ (14 ส.ค.) นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมชาย เชื้อเพชระโสภณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุรพร ลอยหา นพ.สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นพ.มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ร่วมต้อนรับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่โรงเรียนบ้านชาด และโรงเรียนโขงเจียมวิทยาคม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยจำนวน 500 ชุด โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ชุดใหญ่ พร้อมเวชภัณฑ์ตรวจรักษาผู้ประสบภัยฟรี
นายต่อพงษ์ กล่าวว่า สภาพน้ำท่วมขังที่จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 9 อำเภอ 414 หมู่บ้าน จำนวน 16,250 ครัวเรือน จากการประเมินพบว่า บ้านเรือนร้อยละ 50 ส้วมใช้การไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร กระทรวงสาธารณสุขได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานีแจกถุงดำจำนวน 100,000 ใบ เพื่อใช้ใส่สิ่งปฏิกูล รวมทั้งใส่อุจจาระแทนการถ่ายลงน้ำ เพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจเกิดตามมาจากน้ำท่วมขังที่มีความสกปรก และให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการวันละ 5 ทีม มีผู้ป่วยวันละประมาณ 500 ราย ไม่มีรายงานเสียชีวิต จนถึงขณะนี้มีผู้เจ็บป่วย 1,700 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า และได้แจกยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้ว 10,000 ชุด ซึ่งประกอบด้วย ยาที่จำเป็นดูแลสุขภาพเบื้องต้นเมื่อเจ็บป่วย ได้แก่ ยาแก้ปวดลดไข้ ชุดทำแผลสด ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า ผงเกลือแร่โอ อาร์ เอส ใช้ในกรณีท้องเสีย
ทางด้าน นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯได้เปิดสายด่วน 1669 เพื่อให้บริการประชาชนในกรณีที่เจ็บป่วยฉุกเฉินหรือเร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้จัดรถพยาบาลฉุกเฉิน 90 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ เวชภัณฑ์ยา พร้อมช่วยชีวิตผู้ป่วย ที่ผ่านมาได้ช่วยผู้หญิงตั้งครรภ์ครบกำหนดที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยใน อ.โขงเจียม และเจ็บครรภ์คลอด ไปคลอดที่โรงพยาบาลอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลสุขภาพผู้ประสบภัย 23 จังหวัด พบผู้ประสบภัยเจ็บป่วย 26,000 ราย ซึ่งนับว่าน้อยมาก ยังไม่มีโรคระบาด ได้ส่งยาชุดน้ำท่วมไปแล้ว 139,000 ชุด และสำรองเวชภัณฑ์ในการฟื้นฟูความสะอาดอาคารบ้านเรือน ห้องน้ำ ห้องส้วม บ่อน้ำดื่ม น้ำใช้ ในพื้นที่น้ำลดแล้ว เช่น คลอรีน สารส้ม เพื่อปรับสภาพแวดล้อม