สปสช.มอบรางวัลเครือข่ายบริการดีเด่น 4 ด้าน ได้แก่ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และเครือข่ายบริการทารกแรกเกิด ที่มีผลการดำเนินมีประสิทธิภาพ ให้บริการรวดเร็ว ผู้ป่วยรอดชีวิตสูง เพื่อเป็นกำลังใจการทำงาน และสร้างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานระหว่างกัน
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) มองรางวัลเครือข่ายบริการที่เป็นเลิศ (The Best Practice Network) ประจำปี 2554 ขึ้น ซึ่งได้แก่ เครือข่ายโรคหัวใจและหลอดเลือด เครือข่ายโรคมะเร็ง เครือข่ายโรคหลอดเลือดสมอง และเครือข่ายบริการทารกแรกเกิด ที่มีผลการดำเนินมีประสิทธิภาพ
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูงยังมีปัญหาของระบบการส่งต่อบริการ ทั้งการส่งต่อไปรักษายังหน่วยบริการที่มีศักยภาพเหนือกว่า และส่งกลับไปยังหน่วยบริการใกล้บ้านเพื่อการดูแลต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็นของแต่ละโรค และขาดการดูแลรักษาที่ต่อเนื่อง สปสช.จึงให้การสนับสนุนการพัฒนาระบบเครือข่ายบริการกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูงทั้ง 4 กลุ่ม ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้ต่อเนื่องตั้งแต่ระดับขั้นต้นจนถึงขั้นสูง และในปี 2554 ได้สนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายเพิ่มเติม ได้แก่ เครือข่ายบริการบาดเจ็บที่ศีรษะ และขยายเครือข่ายเคมีบำบัดเป็นเครือข่ายโรคมะเร็ง
ซึ่งผลการดำเนินที่โดดเด่น เช่น ในส่วนของโรคหลอดเลือดสมอง ปัจจุบันมีหน่วยบริการสาธารณสุขเข้าร่วมเป็นเครือข่าย 769 แห่ง แบ่งเป็น หน่วยบริการแม่ข่าย 34 แห่ง หน่วยบริการลูกข่ายที่สามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ 102 แห่ง และหน่วยบริการลูกข่ายที่ไม่สามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดแต่สามารถวินิจฉัยอาการได้ 633 แห่ง ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า หลังจากสนับสนุนชดเชยค่ายาละลายลิ่มเลือดให้แก่เครือข่ายหน่วยบริการ และสนับสนุนการพัฒนาระบบเครือข่าย มีอัตราการได้รับยาละลายลิ่มเลือดทันเวลาเพิ่มขึ้น และอัตราการเสียชีวิตลดลง
เลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อว่า สำหรับการมองรางวัลเครือข่ายบริการดีเด่นนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ แรงบันดาลใจให้แก่บุคลากรในการพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่องยั่งยืน และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการพัฒนาเครือข่ายระหว่างกัน ซึ่งตัวชี้วัดการบริการของเครือข่าย คือ การที่ผู้ป่วยได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ รวดเร็วตามระยะเวลาของแต่ละโรค เช่น โรคหลอดเลือดสมองตีบที่ต้องได้รับการรักษาภายใน 3 ชั่วโมงแรกหลังเกิดอาการเป็นต้น อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน การรับเป็นผู้ป่วยใน และรวมถึงอัตราการเสียชีวิตด้วย
อนึ่ง สำหรับผลการพิจารณารางวัลเครือข่ายบริการดีเด่น ประกอบด้วย
1.เครือข่ายโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้รับรางวัลจำนวน 20 แห่ง อาทิเช่น รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี รพ.เพชรบูรณ์ รพ.ชลบุรี
2.เครือข่ายโรคมะเร็ง ได้รับรางวัล 4 แห่ง อาทิเช่น รพ.ลำปาง ศูนย์มะเร็งลพบุรี
3.เครือข่ายโรคหลอดเลือดสมอง ได้รับรางวัล 9 แห่ง อาทิเช่น รพ.สระบุรี รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นต้น
4.เครือข่ายบริการทารกแรกเกิด ได้รับรางวัล 9 แห่ง อาทิเช่น รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก รพ.สกลนคร
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์นโยบายสนับสนุนโครงการพัฒนาเครือข่ายบริการกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูง โดยต้องเร่งพัฒนาระบบการส่งต่อ ส่งกลับ ผู้ป่วยในกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูงให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและ เพื่อพัฒนาการบริการในกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูงในแต่ระดับบริการให้ได้มาตรฐาน ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ ถูกต้อง และทันเวลา