สุกัญญา แสงงาม
“จากการสำรวจความรู้ความสามารถของนักเรียน ปรากฏว่า นักเรียนภายในโรงเรียนมีปัญหา อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ประมาณ 100 คนจาก 1,000 กว่าคน ถือว่าเป็นอัตราที่สูง สำหรับเด็กที่มีปัญหาดังกล่าวส่วนใหญ่กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1-3”นายบรรเทิง ละอองพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเบตง “สุภาพอนุสรณ์” จ.ยะลา บอกเล่าสภาพปัญหาของโรงเรียนที่ประสบอยู่ในขณะนี้
นายบรรเทิง บอกต่อว่า โรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้นประถมปีที่ 6 สำหรับปัญหาดังกล่าวมีมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ย้ายมารับตำแหน่งนั่งเก้าอี้ผู้บริหารก็ตั้งปณิธาน ว่า นอกจากขจัดปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ให้หมดไปแล้ว นักเรียนทุกคนอ่านเขียนคล่องให้ได้ เมื่อคิดเช่นนั้นจึงได้เชิญอาจารย์ทุกคนมาประชุม เอ่ยปากขอร้องให้อาจารย์เสียสละเวลามาสอนนักเรียนตอนเช้าทุกวันก่อนเด็กเข้าชั้นเรียนวันละชั่วโมง โดยครู 1 คนต่อนักเรียน 3 คน จะแยกย้ายกันไปสอนตามลานกิจกรรมต่างๆ เช่น ลานรวงผึ้ง ลานชัย ลานอิฐ เป็นต้น ซึ่งอาจารย์มักจะทำสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียน มีทั้งแบบฝึกหัด ใบงาน จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น เราแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องมาเกือบ 2 ปี นักเรียนที่เคยเขียนอ่านไม่ได้วันนี้สามารถเขียนอ่านได้คล่องขึ้น บางคนกลายเป็นนักอ่าน
“ใครจะมองอย่างไรผมไม่รู้ ส่วนผมคิดว่าเด็กอ่านเขียนไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญ มันหมายถึงชีวิตและอนาคตของเด็กคนหนึ่งทีเดียว หากเด็กอ่านเขียนไม่ได้เขาก็ไม่สามารถต่อยอดหรือเรียนรู้วิชาอื่นๆ ได้ด้วย เพราะฉะนั้นครูและผู้ปกครองต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ระหว่างอยู่โรงเรียนครูจะจ้ำจี้จำชัยให้เด็กอ่านเขียนได้ พอเด็กกลับบ้านพ่อแม่ควรกระตุ้นให้เด็กรักการอ่าน อาจจะอ่านให้ลูกฟัง ผลัดกันอ่านคนละประโยค หรือเล่นอักษรไขว้” นายบันเทิง กล่าว
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังไม่สิ้นสุดลงและยังเดินหน้าต่อไป ขณะเดียวกัน ก็คิดหากุศโลบายใหม่ๆ เพื่อโน้มน้าวให้เด็กขยันใฝ่หาความรู้ ผอ.โรงเรียนบ้านเบตง “สุภาพอนุสรณ์” เล่าอีกว่า เมื่อปี 2552 ได้ริเริ่มให้มีโครงการเรียนดีขี่เครื่องบิน คือ นักเรียนได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของห้อง จะได้นั่งเครื่องบินไปทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯ เนื่องจากเด็กต่างจังหวัดโอกาสที่จะได้นั่งเครื่องบินน้อยมาก พอโครงการนั้นผ่านไป กลับมาทั่งคิดทบทวนว่า การนั่งเครื่องบินมีค่าใช้จ่ายสูงและเด็กไปเรียนรู้นอกสถานที่ได้ไม่กี่คน ถ้าเปลี่ยนมานั่งรถโค้ช ค่าใช้จ่ายต่ำและพาเด็กมาได้มากกว่า ในปีนี้จึงมีโครงการ เรียนดี เด็กดี นั่งรถโค้ช มาศึกษาแหล่งเรียนรู้ในกรุงเทพฯ เช่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ รวมทั้งสถานที่สำคัญๆ ด้วย
“ผมอยากให้เด็กได้เปิดหูเปิดตา เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ท้องถิ่นไม่มี เพราะการได้เห็น สัมผัสสิ่งใหม่ที่ไม่มีในห้องเรียน จะทำให้เด็กขวนขวายใฝ่หาความรู้เพิ่มมากขึ้น สำหรับปีนี้ทางโรงเรียนได้เติมเต็มส่วนที่ขาดและต่อยอดให้นักเรียน ด้านภาษา โดยการจ้างครูต่างชาติมาสอนภาษาอังกฤษ มีโปรแกรมภาษาอังกฤษ มีห้องซาวด์แล็บ เพื่อให้นักเรียนสื่อสารอ่านเขียนภาษาอังกฤษ เพราะในอนาคตภาษาเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต” ผอ.โรงเรียนบ้านเบตง “สุภาพอนุสรณ์” กล่าว
นอกเหนือจากนี้ นายบรรเทิง มีความเชื่อว่า ครูสามารถปั้นนักเรียนให้เป็นคนเก่ง เฉลียวฉลาด มีปฏิญาณไหวพริบดี เป็นเด็กดีของสังคมได้ แล้วความเชื่อก็เป็นจริง เพราะนักเรียน ชั้น ป.6 หลายคนสามารถสอบเข้าศึกษาต่อโรงเรียนจุฬาภรณ์ โรงเรียนประจำจังหวัดได้
“เด็กอ่อนก็เหลาให้เขามีความรู้ความสามารถตามวัย เด็กเก่งก็พัฒนาให้แหลมคมยิ่งๆ ขึ้น จากความเอาใจใส่การเรียนของเด็กทุกคน แล้วมีการเล่าต่อๆ กันไป ประกอบกับช่วงก่อนเปิดภาคเรียนโรงเรียนเดินทางทำการประชาสัมพันธ์ชุมชนโดยรอบโรงเรียน ทำให้ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจ ส่งลูกหลานมาเข้าเรียนเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว กระทั่งโรงเรียนต้องขยายอาคารเรียน จ้างครูมาสอน” นายบรรเทิง กล่าวถึงความสำเร็จอีกขั้นทิ้งท้าย